ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ เทคนิค

EMA (Exponential moving average)

Moving average คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีการนำราคาหุ้น ณ ช่วงเวลาต่างๆมาทำการสร้างเป็นชุดข้อมูลในรูปแบบกราฟเส้น โดยมีการเกลี่ยข้อมูลให้เรียบ เพื่อลดการผันผวนด้วยจำนวนวัน โดยนิยมใช้ Moving average ในการดูแนวโน้มทิศทางของราคาหุ้น  โดย Moving average มี indicator ต่างๆอีกมากมายเช่น SMA (Simple moving average), WMA (weighted moving average) TMA (Time series moving average) และ EMA (Exponential moving average) เป็นต้น ผมขอเลือก EMA (Exponential moving average) เพราะเป็นตัวที่มีการคำนวณที่ซับซ้อนและมีการเกลี่ยค่าถ่วงน้ำหนักความแปรปรวนของข้อมูล โดย EMA ให้ค่าที่ตอบสนองต่อราคาในปัจจุบันได้ใกล้เคียงมากกว่าตัวอื่นๆ ทำให้แสดงถึงแนวโน้มที่ชัดเจน การตีความหมาย การนำ EMA มาใช้ในการกำหนดสัญญาณซื้อ ขายนั้นส่วนมากนิยมนำเส้น EMA 2 เส้นหรือมากกว่ามาใช้ โดยพิจารณาการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย EMA โดย - สัญญาณซื้อ(Buy signal) : EMA เส้นสั้นตัด EMA เส้นยาวขึ้น จากภาพ EMA8 (เส้นสั้น) มีค่ามากกว่า EMA20 (เส้นยาว) ทำให้เส้นสั้นตัดเส้นยาวขึ้น แสดงถึงการยกตัวของราคาหุ้น เกิดสัญญาณซื้อ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้น

เทคนิคเดยเทรด :กลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย 2

หัวใจของกลยุทธ เรื่องของกลยุทธการลงทุนที่ผมขอแชร์เทคนิคที่ตัวเองใช้ในการลงทุนแบบ Day Trade คือกลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย หลักการใหญ่ใจความคือ การกินทีละน้อยหรือตอดกินเพื่อไม่ไปทำลายเกมส์ของรายใหญ่ เราต้องเข้าใจก่อนว่าหุ้น Day Trade มันวิ่งได้เพราะมีคนคุมเกมส์การซื้อ ขาย การที่เราโลภอยากได้มาก ลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก(ไม่มากถึงรายใหญ่ แต่ก็มากพอจะตบหมดช่อง) มันทำให้เกมส์และการคุมจังหวะของรายใหญ่เสียไป  แน่นอนว่าคนที่คุมเกมส์จะมี Bid offer ที่เขาวางไว้ ดังนั้นเราต้องให้เกียติร์คือเล่นไปตามเทรนด์ กินตามรายใหญ่ อย่าทำอะไรที่ไปขัดใจ หรือโดนจับได้เพราะแทนที่จะได้เราอาจจะเสียและโดนเล่นงานโทษฐานไปขย่มเกมส์ของคนอื่น อีกประเด็นของกลยุทธนี้คือ การสอนให้เรารู้จักพอกินคำเล็ก ไม่ละโมบเพราะเหยื่อที่รายใหญ่ใช้ตกปลาในเกมส์นี้คือความโลภ ถ้าเราไม่โลภกินพองามเราจะอิ่ม แต่ถ้าละโมบกินเยอะเราจะจุกและตาย ยกตัวอย่างเช่นหุ้นปกติถ้ามีการไล่ราคาให้บวกไปถึง 10% ในหนึ่งวัน ถ้าเราเล่นตามกลยุทธนี้ควรจะอิ่มและลงตั้งแต่ 6% แล้ว ถึงแม้จะปล่อยให้ Profit run ได้แต่ต้องไม่ลืมว่านี้คือเกมส์ระหว่างวัน มันมีโอกาสที่หุ้นจะลง

มีเงินสิบล้าน ควรนำไปทำอะไรดีครับ ???

คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อย เป็นคำถามที่เสียดแทงใจหลายคนที่เป็นนักเล่นหุ้นแต่มีเงินเก็บน้อยกว่าคนถาม ซึ่งเราจะพบการสะท้อนความอัดอั้นได้จากคำตอบประเภทแดกดันที่ว่า มีเงินเยอะขนาดนี้ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็เอาไปฝังดินไว้เถอะ ผมว่ามันก็ไม่ได้เป็นคำถามอะไรที่แปลกแต่อย่างใด อยากให้มองด้วยใจเป็นกลางเพราะผมเชื่อว่าทุกคนย่อมเคยมีคำถามอย่างนี้มาก่อน ต่างกันตรงที่จำนวนเงินมากบ้างน้อยบ้าง แต่อย่างน้อยด้วยคำถามแบบนี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราหันมาศึกษาเรื่องการลงทุน และเข้ามาสู่ตลาดหุ้น หรือสนามการลงทุนรูปแบบต่างๆ ไม่ใช่หรือครับ ตลอดชีวิตตั้งแต่เรียน จนทำงาน เรามักถูกสอนและพยายามจะเรียนรู้แต่การทำเงิน สร้างเงิน พยายามขวนขวายสร้างศักยภาพ ทำงานหนักเพื่อการสร้างรายได้ ทั้งจากทางตรงคือสร้างโอกาสให้ได้รับตำแหน่งงานที่ดีเพื่อเงินเดือนที่สูงขึ้น หรือทางอ้อมจากการทำงานพิเศษ แน่นอนว่านั้นก็คือการทำงานเพื่อแลกเงิน แต่เราไม่ได้เรียนรู้เรื่องการเงินการลงทุนเท่าไหร่นัก นอกจากผู้ที่ศึกษามาโดยตรงทางด้านนี้(แต่ถ้ามีทัศนะคติที่ผิดก็ไม่มีประโยชน์) ปัญหาก็คือต่อให้เรามีความสามารถและมีวินัยในการ