รายงานจาก DeutscheBank ข้อมูลของ Magnificent 7 หุ้นดาวเด่น Big Tech ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา เทคโนโลยี AI และมีฐานธุรกิจกระจายทั่วโลก อย่าง Apple, Amazon, Alphabet, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla
ที่ล่าสุดทั้งผลกำไร และขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ Market Cap รวมกันทั้งหมด 7 บริษัท นั้นสูงกว่าบรรดาบริษัทเกือบทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในกลุ่ม G20 แต่ยังแพ้ 2ประเทศคือ จีน และญุี่ปุ่นที่ ผลกำไรทั้งหมดของทุกบริษัทในตลาดหุ้นรวมกัน
ขณะที่ล่าสุด Market Cap ของ Microsoft และ Apple รวมกันก็ใกล้เคียงกับบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย และ UK
ดูเหมือนเป็นเรื่องดีสำหรับ นักลงทุนแต่นักวิเคราะห์ของ DeutscheBank มองว่ามันคือการกระจุกตัว และเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวของตลาดหุ้นสหรัฐ และบริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 จะเชื่อมโยงไปยังตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ที่ถ้าเกิดวิกฤติ รอบใหม่ ก็อาจจะเกิดการรุกรามกระทบไปยังประเทศต่างๆทั้วโลกด้วย
ประเด็นนี้ นักกลยุทธ์ Michael Hartnett ของ ฺBofa ก็ออกมาพูดถึง โดยสรุปคือเขาบอกว่าตลาดยคล้ายกับตอนปี 2000 , หุ้น AI และ tech stocks ,ราคาแพงมาก เกินพื้นฐานไปเยอะ เทรดบนความคาดหวังที่จะมาถึง (ช่วงปลายปีที่แรงซื้อมาดันหุ้นกลุ่มนี้พุ่งไป 140%)
คล้ายกับตอน dot com หุ้น Internet bubble ใน NASDAQ ก็วิ่งไป 230% จากภาพกราฟนี้เป็น BofA bubble charts ที่แสดง Buble ที่รอระเบิดทั้ง AI และ FAANG(ชื่อเก่า) ในอดีตจะเห็นมีฟองสบู่ที่ Peak แล้วพังเช่น ARKK , Biotech เป็นต้น
.............................
นักวิเคราะห์มองว่า ยิ่งใหญ่ ยิ่งล้มแรง ,ถ้าฟองสบู่ระเบิดจากสาเหตุใดๆก็ตาม ย่อมตามมาซึ่งหายนะ วิกฤติตลาดหุ้นที่รุนแรงได้
กระแสแรงสุดช่วงนี้ต้นปี 2024 ต้อง Magnificent 7 แล้ว เอาจริงๆการไล่ตามกระแส เป็นสิ่งที่ต้องใช้สติให้ดี ควรมีแผนและบริหารความเสี่ยงให้เป็น
ดังนั้นไม่ควรประมาท เพราะการ FOMO ตามกระแส ก็มีบทเรียนให้เห็นมากมายที่ออกมาจบไม่สวย
อ้างอิงจาก