ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ซื้อบ้าน vs เช่าบ้าน

 มุมมองของกระผม เรื่องซื้อบ้าน "มันคงไม่มีคำตอบตายตัว" มันขึ้นกับความเหมาะสมมากกว่า เมื่อเช้าฟังคนเถียงกันเอาเป็นเอาตายเรื่อง ซื้อบ้าน กับ เช่าบ้าน ,เพราะน้องคนหนึ่งทำงานได้ห้าปี โดนเพื่อยุให้ซื้อบ้าน แทนที่จะเสียเงินค่าเช่าเดือนละหลายพันให้คนอื่น(ช่วยให้คนอื่นรวย) , ซื้อบ้านผ่อนเงินเท่ากัน ได้เป็นเจ้าของด้วย ด้วยเหตุผลที่เพื่อนเขามองก็ไม่ผิด แต่มันต้องชั่งน้ำหนักสิ่งที่ตามมาด้วย ไม่ใช่เทียบแบบ binary แค่ว่าเป็นเจ้าของ กับไม่เป็นเจ้าของ

เพราะซื้อบ้านเอง ไม่ใช่ไม่ดีมันดี แน่ละคือการสร้างภาระหนี้ระยะยาวโดยเฉพาะเมื่อเงินน้อย ผ่อนได้ไม่มาก หนี้ทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยผ่อนก็ไป 30 ปีกว่าๆ นั้นคือ เราต้องหาเงินให้ได้อย่างน้อยในอีก 30 ปี เพื่อมาปิดหนี้ก้อนหนี้ , ยังไม่รวมรายจ่าย ที่ตามมาทุกปี ที่หักจากเงินเดือนของเรา ซึ่งพวกนี้ต้องเตรียมและวางแผนไว้ ในวันที่ไม่ปกติด้วย เช่น โดดไล่ออก หรือตกงานบริษัทเลิกจ้าง
การเช่าบ้าน หลายพัน มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เสมอไป เพราะขึ้นกับตัวบุคคล ถ้าไม่มีความพร้อมในภาระทางการเงินหรืออนาคตทางการงานยังไม่แน่นอนตายตัว ก็ไม่จำเป็นต้องไปให้คนรอบข้างกดดัน หรือซื้อบ้านเพียงเพราะมันดูดี ดูรวยในสายตาคนอื่น แล้วต้องทนทุกข์แบกหนี้ ทนเลียขาเจ้านาย ทำงานประจำที่ไม่ได้อยากทำไปทั้งชีวิต (อันนี้ก็ไม่คุ้ม)
เขียนบทความนี้อยากบันทึกความคิดตัวเองไว้ ไม่ได้พยายามจะบอกว่าอันไหนดีกว่ากัน เพราะมันขึ้นกับบริบทชีวิตของแต่ละคน อยากนำอีกหนึ่งทางเลือกที่บนโลกใบนี้มามาฝากด้วย เป็นกรณีของ Dan และ Marnie ต้องการสร้างครอบครัว เลยซื้อบ้านหลังใหญ่ Suburban ทำเลทองในซิดนี่ ออสเตเรีย พื้นที่ใช้สอยกว่า 200 ตรม. ยอมเป็นหนี้ผ่อนบ้านหลายล้านเหรียญ , แต่สุดท้ายอยู่ไปสัก 3 ปีกว่าๆเริ่มรู้สึก มันไม่ใช่ชีวิตที่เป็นสุข แบบต้องการ ทั้งด้านสุขภาพจิตและด้านการเงิน ,
ดังนั้น เขาทั้งสองเลยเปลี่ยนแปลง เลือกจะ downside ลดขนาดมาสร้าง tiny house หลังไม่ใหญ่ 31.5 ตร.ม พร้อมสระว่ายน้ำ ที่ออกแบบอย่างดี ในงบประมาณ 400000 เหรียญ , ในพื้นที่สวนหลังบ้าน ขณะเดียวกันก็ปล่อยบ้านหลังใหญ่ ให้เช่า เพื่อสร้างรายได้ไปใช้ผ่อนเงินกู้กับธนาคารต่อไป(ผ่อนบ้านหมดเร็วด้วยเพราะมี income stream มาเสริมกับเงินเดือน) ,
การ downside มาใช้ชีวิตแบบพอเพียง บนการวางแผนการเงินที่ดี มันช่วยทำให้ ชีวิตของทั้งคู่และครอบครัว มีความสุขมากขึ้น ไม่ต้องเครียดกับการทำงานหนักมาหาเงินผ่อนบ้านหลังใหญ่ และมีรายจ่ายต่างๆเกี่ยวกับบ้านมากเกินไปด้วย
สรุป มันคงไม่มีคำตอบตายตัว เพราะแต่ละคนก็คงต้องมองหา solution ที่เหมาะสมกับตัวเองกันไปครับ สนใจลองเข้าไปชมบ้านและวิธีคิดดีๆจาก Dan และ Marnie ได้ที่