ผมได้อ่านเจอโพสนี้น่าสนใจดี ประเด็นมาจากช่วง Bitcoin ทำ ATH ก็มีเทรดเดอร์ใช้ชื่อว่า "Parking_Meater" ไปโพสใน Reddit ว่า ภรรยาหนีออกจากบ้าน หลังทะเลาะกัน เพราะสามี(เทรดเดอร์) ไม่เชื่อเธอไม่ยอมขาย Bitcoin ตอนราคาไป $60000 ตอน 13 มีค. จนราคามันลงมาเรื่อยๆหลุด 52000 ช่วง 26 มีค. มาโกรธจัดตอนจับได้ว่าสามียังอัดเงินเข้าซื้อเพิ่มตามสไตล์ Buy the Dip (แต่ในข่าวไม่ได้ระบุว่าซื้อ BTC จำนวนเท่าไหร่)
ภรรยาหนีออกจากบ้านไปอยู่กับพี่สาว แต่สามีบอกว่าครอบครัวเราสบาย ไม่ได้ต้องการเงินสด เขาเลยไม่ต้องการขาย bitcoin ออกมา นั้นคือเหตุผล ในโพสกระทู้นี้ ไม่มีอะไรมากคอมเมนต์ไปทางเฮฮา หลายคอมเมนต์บอกว่าเดี่ยวบิตคอยก็กลับมาดังนั้นเปลี่ยนภรรยาใหม่ดีกว่า , บ้างแนะนำให้ปรึกษาหาทนายความเตรียมหย่ากันเลย
กระทู้นี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ลึกมันสะท้อนปัญหาหนึ่งของเทรดเดอร์ครับ เพราะ ทัศนคติมุมมองต่อ ผลกำไร/ขาดทุน ของตัวเทรดเดอร์ กับ คนทั่วไปรอบข้าง(คนในครอบครัว) มันจะแตกต่างกัน เวลาคุยกันมันเปราะบางมากโอกาสเข้าใจผิดหรือเกิดผลลบ นี้เกิดได้ บางทีตอนราคาบิตคอย/ ราคาหุ้น ที่เทรดขึ้นมีกำไร อาจจะเผลอไปบิ้ว ไปคุยอวดเมีย พอมันลงแรง หรือพอขาดทุน มันย่อมเกิดผลกระทบเชิงลบสะท้อนกลับมาได้ อย่างแรงอาจจะทะเลากัน อย่างเบาอาจจะทำให้ต้องกังวล
เอาจริงๆ การเป็นเทรดเดอร์ ที่ต้องเทรดประจำกับสินค้าผันผวน เจอผลกำไรขาดทุนประจำ อาจจะต้องหาที่ปรึกษาหรือคนคุยด้วย แต่ต้องเลือกดีๆ ต้องมีระบบสนับสนุนที่ ช่วยได้ ขณะเดียวกันอาจจะลองทบทวนดีๆว่า คนรอบข้าง หรือคนครอบครัวเรานั้น รับได้ กับ ความไม่แน่นอน หรือผลขาดทุนที่เกิดด้วยหรือไม่ ก่อนจะไปแชร์ความรู้สึกดีใจ เสียใจ หรือความกังวลจากผลการเทรดของเราครับ
อ้างอิง