บันทึกนี้จะมาสรุปบทเรียน ที่สอนเรื่อง Multi-Strategies & Multiple Products จำได้ช่วงก่อนหน้ามีคนถามเรื่องการต้องการเข้าไปเทรดน้ำมัน(WTI) แต่ด้วยความที่ตลาดผันผวนมาก เลยแนะนำมือใหม่ให้ลองเทรดระยะกลางกับ กองทุนรวมน้ำมัน แทน (ส่วนตัวผมเทรดมาหลายปีแล้ว เทรด Futures และ CFDs มันบริหารความเสี่ยงได้)
ซึ่งตัวอย่างที่ทำ live บรรยายให้ดูคือเลือก กองทุนรวมน้ำมัน มาทำให้ดู เพราะ ซื้อขายสะดวก เปิดบัญชีกองทุนรวมของธนาคารหรือโบรกเกอร์ได้เลย (ถ้าใครมี account ต่างประเทศก็อาจจะลอง Oil ETFs โดยตรงเช่นของ USO[United States Oil Fund] , Invesco DB Oil Fund) เมืองไทยมี กองทุนรวมน้ำมัน ให้เลือกหลายค่าย เช่น SCBOil, I-OIL, K-OIL เขาก็กินค่าธรรมเนียมและไปลงต่อใน ETF อีกที
ตัวอย่างผมเลือก SCBOil เพราะเขาลงใน Invesco DB Oil Fund ความผันผวนไม่มาก ขนาดกองใหญ่และกองนี้ค่าธรรมเนียมพอรับได้ ข้อดีของการเทรด กองทุนรวมน้ำมัน คือ ไม่ใช้ leverage วางเงินซื้อหน่วยลงทุนไม่สูงก็เทรดได้, ข้อเสียคือ price quote ราคาจะช้าไม่รู้ทันที ทำให้ไม่เหมาะกับการเทรดสั้น แต่เทรดตามรอบ momentum สามารถทำได้ , แน่นอนว่ากำไรอาจจะได้ไม่สูงเท่าการเทรด Futures แต่ผลกระทบจากความผันผวนของราคา ก็น้อยลงด้วย ขณะเดียวกัน ถ้ามองภาพระยะสั้นไม่ออก สามารถถือยาวข้ามไตรมาส โดยไม่มีวันหมดอายุและปัจจัยเชิงเวลามากระทบ
ในภาพผมเทรด oil futures ระยะสั้นได้กำไรจาก short พอปิด position ในช่วงปลายเดือน เมย. ตลาดผันผวนมาก แทนจะ long สัญญา รอบใหม่แบบ Mean reversion เราก็รอให้ราคานิ่งเข้า zone แล้วซื้อสะสม ETFs หรือ กองทุนรวม เพื่อถือตามรอบกลางแทน (ไม่เสียโอกาส ไม่ปะทะกับความเสี่ยงที่สูง ในภาวะตลาดผันผวน)
ไม่ขอลงรายละเอียดเยอะ หลายเรื่องอธิบายไปแล้ว แต่อยากให้เห็นไอเดีย ในการเทรด ที่สินค้าตัวหนึ่ง เรามีไอเดีย มองเห็นโอกาส เราสามารถวางกลยุทธ์เขาเทรดที่หลากหลาย Multi-Strategies และเลือกใช้ให้เหมาะกับ Products ตามระดับความเสี่ยงที่เรารับได้ ต่อไป