สำหรับ Bitcoin ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นกองแช่งหรือกองเชียร์ ผมเป็นเพียงผู้ศึกษา ดังนั้นจะพยายามเก็บรวบรวมข้อมูลและมุมมองของบิตคอยจาก กูรู ที่มีประสบการณ์ในโลกการเงินเอาไว้ เพื่อเป็นกรณีศึกษาในอนาคตต่อไป
เมื่อวานมีมุมมองจากกูรูท่านหนึ่ง ที่ผมอยากฟังความคิดเห็นมากนั้นคือ
Nassim Nicholas Taleb คนนี้เป็นนักสถิติ และผู้บริหารกองทุนเฮ็ดฟันด์ชื่อดัง ประสบการณ์โชกโชน บริหารพอร์ตทำกำไรจากวิกฤติการเงินและฟองสบู่มาหลายครั้ง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมาก เชื่อว่าถ้าใครศึกษาด้านการเงินหรือกลยุทธ์การเทรด น่าจะเคยอ่านหนังสือเช่น ‘Black Swan’, Antifragil ,Fooled by Randomness และงานวิจัยของเขามาบ้าง
Nassim Nicholas Taleb คนนี้เป็นนักสถิติ และผู้บริหารกองทุนเฮ็ดฟันด์ชื่อดัง ประสบการณ์โชกโชน บริหารพอร์ตทำกำไรจากวิกฤติการเงินและฟองสบู่มาหลายครั้ง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมาก เชื่อว่าถ้าใครศึกษาด้านการเงินหรือกลยุทธ์การเทรด น่าจะเคยอ่านหนังสือเช่น ‘Black Swan’, Antifragil ,Fooled by Randomness และงานวิจัยของเขามาบ้าง
Nassim Taleb เขียนถึง Bitcoin ยาวแต่ไม่ได้พูดเรื่อง ราคาและ Bubble โดยตรงแบบ ray dalio หรือ warren buffett แต่เขาเขียนเชิงมุมมองของระบบการเงินโลก ที่ว่ามันกำลังจะเปลี่ยนไปจากการกำเนิดของ Bitcoin และกระแสของ cryptocurrency โดยระบบเงินตราสำหรับการแลกเปลี่ยนที่เคยถูกควบคุมและแทรกแซงจากรัฐบาลจะถูกสั่นครอน เมื่อสังคมส่วนใหญ่เริ่มรู้จักแนวคิดของ cryptocurrency มากขึ้นตามกระแสที่เกิด
ซึ่งบิตคอย จะเป็นเหมือนเครื่องเตือนให้รัฐบาลและธนาคารกลางทั้งหลายตระหนักว่าในอนาคต currency อาจจะไม่ใช่ระบบ monopoly อีกต่อไป เมื่อคนส่วนใหญ่มองเห็น idea ข้อดีของระบบเงินตราที่ไม่ต้องมีตัวกลางหรือถูกควบคุมจากรัฐบาลผู้มีอำนาจ ช่วยให้คนส่วนใหญ่ในสังคมมีทางเลือกมีหลักประกันในระบบเงินตรารูปแบบใหม่ที่ไม่ขึ้นกับอำนาจรัฐอีกต่อไป
ตบท้ายสั้นๆแกเขียนว่า It may fail but then it will be easily reinvented นัยยะคือว่าราคาที่เห็นแน่นอนว่า เมื่อไม่ปกติมันก็ย่อมต้องปรับไปหาสมดุล แต่แนวคิดของ cryptocurrency จะยังคงอยู่และงอกเงยขึ้นมาใหม่แก้ปัญหาและความไม่สมบูรณ์เดิมของบิตคอย เรื่อง value , volatile และ transaction ต่อไป