FT นำเสนอบทความและข้อมูลของ cryptocurrencies ในประเทศญุี่ปุ่นที่เป็นชาติซึ่งมีบทบาท และเข้าไปมีส่วนร่วมกับ cryptocurrencies มาอย่างต่อเนื่อง แม้ประชาชนจำนวนมากจะเจ็บหนักจาก bitcoin กรณี Mt Gox ล้มสลายตอนปี 2014 แต่ปัจจุบันก็ยังมีความนิยมมากในการเทรดซื้อขาย crypto currencies โดยเฉพาะ bitcoin
Coincheck, bitcoin exchange ใน Tokyo ระบุญุี่ปุ่นมีลูกค้าที่เข้ามาเทรด bitcoin ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆถึงมากกว่า 60 ปี โดยรัฐบาลญุี่ปุ่นออกกฏชัดเจนคือ บริษัทค้าขาย bitcoin ในประเทศต้องมีการระบุตัวตน และบัญชีของลูกค้าอย่างชัดเจน รวมถึงมีรายละเอียด กฏเกี่ยวกับการให้เงินกู้และคุมระดับความเสี่ยงของการเทรด ที่ regulator ต้องตรวจสอบได้ ดูเหมือนจะแตกต่างจาก concept ของ Bitcoin ในการพัฒนาตอนเริ่มต้นอย่างมาก แต่ก็คงเป็นเรื่องปกติ เพราะคนญุี่ปุ่นส่วนใหญ่ 80% ที่เทรด Bitcoin ไม่ต่างอะไรกับ asset อื่นๆเช่นค่าเงิน คือเน้นเก็งกำไรหาประโยชน์ส่วนต่างราคา ในยุคดอกเบี้ยเงินฝากมันติดลบ ปัจจุบันดูตัวเลขปริมาณการซื้อขายของญีุ่ปุ่นเทียบกับทั้งโลก ก็จะเห็นความแตกต่างมหาศาล กลายเป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีบทบาทกับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด
รัฐบาลญุี่ปุ่นไม่ได้ห้ามการเทรด Bitcoin แต่เข้ามาควบคุมตลาด Bitcoin และ crypto currency อย่างจริงจัง พยายามทำให้จากใต้ดิน ขึ้นมาบนดินกลายเป็นตลาดที่โปร่งใส่เพื่อการตรวจสอบ และดูแลได้ เพราะตัวเลขการ้องเรียนจาก Government-backed National Consumer Affairs Center พบว่า กรณีการหลอกหลวงระดมทุนใน ICO และการลงทุน crypto currency แลกกับผลตอบแทนสูงผิดปกติ เกิดขึ้นมาก ตาม ภาวะราคา Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้น ปี 2017 มียอดสูง 1,100 ราย เทียบปี 2016 มีการร้องเรียนการหลอกลวง 848 ราย ทำให้รัฐบาลทดลองหาวิธีการจัดการดูแล
ดูเหมือนสถานการณ์รวม จะดีขึ้นหลังทำให้ถูกกฏหมาย ง่ายการติดตามดูแลการซื้อขาย cryptocurrencies ซึ่งบริษัทโบรกเกอร์รับเทรด หรือ exchange หลักขนาดใหญ่ ต่างต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย และมีเงินทุนสูงสำรอง ซึ่งส่วนใหญ่มี Backup จากธนาคาร หรือกลุ่มกองทุน VC เช่น Bitflyer มีกลุ่ม MUFG สนับสนุนเงินทุน ,ส่วน Quoine สนับสนุนเงินทุนโดย Jafco และอีกหลายเจ้าที่มองว่า กระแส Bitcoin เป็นโอกาสทางธุรกิจ ทำให้มีผู้ให้บริการเปิดใหม่อีกหลายรายช่วงปีที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มเติม
https://www.ft.com/content/0d9d6186-b808-11e7-9bfb-4a9c83ffa852