ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Do you believe in Bitcoin?

ได้อ่านบทความนี้ของ BI เป็นเรื่องราวของ Didi Taihuttu ชายผู้เป็น Bitcoin believerสาย Hardcore ที่ขายสินทรัพย์ทุกอย่างที่มี เพื่อซื้อ Bitcoin และรอให้ผลตอบแทนมันเพิ่มทวีคูณ
Didi Taihuttu ชายวัย 39 ปี ภรรยา 1 ลูกสาว 3 คนหลังจากที่คุณพ่อเขาตายด้วยโรคมะเร็งในวัย 61 ปี เขาได้ขายธุรกิจ ขายบ้าน ขายรถ และสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี ซึ่งตอนแรกเขาพยายามจะขายบ้านมูลค่า 300,000 eur เป็นบิตคอยแต่ติดปัญหาที่ระบบธนาคารและการโอนสัญญาซื้อขายอสังหา ทำให้ต้องซื้อขายเป็นสกุลเงินแบบเดิม
หลังจากขายบ้าน และธุรกิจเก็บเงินบางส่วนเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก กับครอบครัว และใช้เงินส่วนใหญ่ที่เหลือ ซื้อ Bitcoin เก็บสะสมไว้ โดยมีเป้าหมายเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ใน Asia , Australia และเขาเปลี่ยนมาเลือกใช้ชีวิตแบบ สมถะ(แตกต่างจากอดีตที่ครอบครัวเขานิยมความหรูหรา) ไปจนถึงปี 2020 โดยคาดหวังว่า Bitcoin ที่สะสมเป็นแหล่งพักเงิน มันจะโดขึ้นจากเดิม 3-4 เท่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า
Minimalist คือ Key ที่ Didi Taihuttu บอกว่ามันจะช่วยทำให้เขาสำเร็จในการเดิมพันครั้งนี้ ซึ่งเขาเล่าว่าหลายคนอาจจะคิดว่าเขาบ้า แต่เขารู้จัก Cryptocurrency มาตั้งแต่ปี 2010 และระหว่างเดินทางไปในหลายประเทศเขาก็เห็นคนจำนวนไม่น้อยใช้ digital currency


ในอีกมุมเขามองว่า กำไรที่ได้มาจากโปรเจคนี้ไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่มันเป็นโอกาสที่จะได้เดินทางท่องเที่ยว พาครอบครัวไปเรียนรู้โลก และเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบ minimalist แล้วปล่อยให้เงินส่วนใหญ่ที่พักไว้ใน Bitcoin รอวันเติบโต ซึ่งเขาเชื่อว่า blockchain technology ใน 3-4 ปีข้างหน้ามันกลายเป็นกระแสหลัก เติบโตและได้รับการยอมรับ ซึ่งน่าจะเป็นผลบวกต่อการเก็บสะสมของเขา
คงไปสรุปไม่ได้ว่า มันผิดหรือถูก ดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เป็นการเลือกใช้ชีวิตและเลือกการวางแผนการลงทุนใน digital currency ที่ดู hardcore แต่ก็น่าติดตามผลครับ

ส่วน Data ชุดนี้จาก บลูมเบริกเขานำเสนอปริมาณการเทรดในตลาด crypto currency ที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมา bullish อีกรอบ โดยเฉพาะ Bitcoin ที่กลับมาทำ New high เหนือแนว $5,000 ได้อีกครั้ง ปีนี้บวกราวๆ 400%
ดูจากข้อมูล สิ่งที่เห็นชัดใน ปี 2017 คือมันเป็นเกมส์ของฝั่งเอเซีย อันนี้ว่าไปตาม data ที่มาจาก exchange หลัก เราจะเห็น Bitcoin ปี 2016 จีนเป็น Big player ซื้อสะสมมาก ตัวเลขการแลกเปลี่ยน หยวนไปเป็น BTC ผ่านมาปี 2017 กลายเป็น volume หลัก เปลี่ยนกลับมาจากฝั่งของ Japan แทนซึ่งเฉลี่ย 55% ของการเทรดส่วน จีนเหลือแค่ 10%
เบอร์สองที่มาแรงอย่าง Ethereum ปริมาณการเทรดมาจาก เกาหลีใต้เป็นหลัก ดังจะเห็นปริมาณการแลกเปลี่ยนจาก Korean won สูงกว่า 60%
ยิ่งตามยิ่งน่าสนใจ เพราะถ้ามองแค่ ราคา อาจจะเห็นถึงความผันผวนและความมันส์ ที่ แต่ถ้าเราดูปริมาณการซื้อขาย จะพบเลยว่า ฝั่งยุโรป และอเมริกา กลับมีการเทรด crypto currency ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นชาติเอเซียจากจีนและญุี่ปุ่นกลายเป็น เจ้ามือ กลุ่มที่ซื้อสะสม(Buy Volume สูงกว่า Sell มากมายในตลาด crypto) 

ชาติที่ Cashless society อย่างยุโรป เช่น สวีเดน กลับมีการใช้หรือมีการเทรดตลาด crypto currency น้อยมาก รวมไปถึงบางประเทศมีการนำ block chain ไปพัฒนา digital currency อย่างถูกกฏหมายด้วยตัวเองแทน แถมเราจะเห็นกูรูฝั่งอเมริกา ยุโรป ตบเท้าให้ความเห็นว่า Bitcoin เป็นฟองสบู่ที่ไม่รู้วันแตก พยายามเตือนไม่ให้คนของเขาเข้ามาเทรด (แต่ราคาก็ยังลากขึ้นได้ทุกวัน )


นักวิเคราะห์สำนักต่างประเทศรายหนึ่ง ให้ข้อคิดไว้น่าสนใจ เขามองว่า ถ้าเอเซีย สะดุดหรือเจอวิกฤติการเงิน เม็ดเงินเข้ามาเก็บ Bitcoin และ Ethereum คงหนีไม่พ้นที่เจอผลกระทบครั้งใหญ่
ผมมองว่า Bitcoin เป็นอะไรที่น่าใช้เป็นกรณีศึกษามาก ทุกวันนี้ไล่ดูดเก็บข้อมูลจำนวนมากเอาไว้ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อ เจ้ามือหรือ Big Player จะใช้กลยุทธ์ยังไงในตลาดเก็งกำไรนี้ คงรอติดตามกัน