สรุป vdo บรรยายของ Anton Kreil เขาไปพูดที่ Cass Business School หลายเรื่องน่าสนใจผมเลยสรุปโน๊ตมาฝาก สำหรับท่านที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ โดยผมจะสรุปย่อรวมๆนะครับไม่ได้ แปลแบบคำต่อคำ ดังนั้นถ้าจับใจความได้ มีเวลาก็อาจจะไปดูเพิ่มก็ได้ คลิปรวมยาวประมาณ 1 ชม.
Part I
ประวัติและประสบการณ์ทำงาน
1. เขาเกิดและโตที่เมือง Liverpool เริ่มเทรดตอนอายุ 16 ตอนปี 1994 ตอนนั้นเขาดูสารคดีที่มีเรื่องของตลาดหุ้น เรื่องของนักเก็งกำไร(trader) ทำให้เขาสนใจและคิดว่า นั้นแหละคือสิ่งที่อยากทำ เลยเริ่มต้นศึกษาจริงจัง
2. เขาเทรดหุ้น พอเข้ามหาวิทยาลัย Economics undergraduate ที่ Manchester University ก็ยังเทรดหุ้น ระหว่างเรียน เน้นเทรดหุ้นเล็ก หุ้น ICT หุ้น IPO โดยสมัยนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่อำนวยและราคาแพงต้องเทรดผ่านโทรศัพท์เป็นหลัก เขาตั้งเป้าหมายชัดเจนคือ จะเป็นเทรดเดอร์
3. เริ่มทำงานตอนเข้าปี 4 เล่าว่า Goldman Sachs (GS) ไปบรรยายเรื่องอาชีพ investment bank ที่มหาวิทยาลัย เขาสนใจ เลยส่ง email ตัว trading record ไปให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ได้เรียกเข้าสัมภาษณ์ และได้เข้าทำงาน ทั้งทียังเรียนไม่จบ
4. ฝึกงานที่ลอนดอน 2 เดือนจากนั้นย้ายไปฝึกต่อที่ นิวยอร์ต เข้าเทรดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นเล็ก หุ้น it เป็นหลักทำเงินเยอะมาก ในยุคก่อนฟองสบู่ .dotcom ที่หุ้นอินเตอร์เน็ตและไอที มาแรง
5.ได้ เข้าทำงานที่โต๊ะเทรด ประจำ NYSE ของ GS ตำแหน่งนักวิเคราะห์ ได้เรียนรู้ ได้ฝึกการเทรดกับทีม หลายอย่าง เขาเล่าว่าเป็นเรื่องยากแต่ถ้าท้าย และทำให้เขาพัฒนาทักษะการคิด การตัดสินใจ
6. การเรียนรู้ในตลาดจริง เป็นเรื่องสำคัญ อย่างกลัวจะผิด เพราะนั้นคือกระบวนการ แต่ต้องมีแผนควบคุมความเสียหายจากการผิดพลาดให้ได้
7. volatility สำคัญต่อเทรดเดอร์ เรียนรู้และใช้มันให้เป็น
8.ทำงา่น Goldman Sachs ประมาณ 4 ปีกว่า ได้เรียนรู้อะไรมาก ทำงานกับคนเก่ง คนที่ active และมีความบ้างานสูง เขารับผิดชอบวงเงินเทรด 10 million ยิ่งเทรดได้กำไรยิ่งได้วงเงินเพิ่ม เขาเทรดผลงานดี จน desk ที่อยู่ได้เงินบริหารถึง 500 million
9. ออกจาก Goldman Sachs ย้ายไปทำงาน Lehman Brothers (โดนจีบซื้อตัว) ไปรับงานเทรดฝ่าย European Trading Operations ทำเงินให้บริษัทได้มากพอควร จนได้เลื่อนเป็น Vice President ของ European Trading Desk จากนั้น 2 ปีก็ย้าย ไป JP Morgan เทรดเงินขนาด 100 million เขาเทรดในช่วงตลาดขาขึ้น จนเกือบเข้าช่วงปลายก่อนเกิดวิกฤติการเงิน subprime เขาก็เริ่มอิ่มตัวกับเกมส์ แข่งกันทำเงิน ทำตัวเลขที่ดุเดือนของ investment bank เลยลาออกจาก JP Morgan
10. ลาออกมาเทรด เงินตัวเอง และใช้เวลาเดินทางเที่ยวรอบโลก 17 เดือน เริ่มเบื่อ ลูกค้าคนหนึ่งที่เป็น hedgefund นั้นคือ Lex van dam ชวนมาทำรายการ million dollar trader เขาเลยกลับมาทำ รายการฮิต โด่งดังมากที่อังกฤษ จนเขากลายเป็นคนดัง ที่เดินไปไหนก็มีคนรู้จัก เขาไม่ชอบความดัง ฮึดอัด ย้ายจากเมืองหลวงไปอยู่ย่านชานเมืองแทน
Part II
คำแนะนำ
1. Anton Kreil แนะนำเทรดเดอร์รุ่นใหม่ต้องฝึกหนัก เพราะตลาดยากขึ้น คนเก่งมากขึ้น โอกาสในเฟิร์ม หรือบริษัทลดน้อยลง
2. การฝึกแนะนำให้เทรด หลายๆตลาด หลายสินค้า เพื่อให้เกิดการกระจายโอกาสและความเสี่ยง แต่ถ้ามือใหม่อาจจะเริ่มจากหุ้น เพราะ volatile ของสินค้าต่ำ เทรดง่ายกว่าตลาดค่าเงินและตลาดอนุพันธ์อื่นๆ
3. การเลือกโบรกเกอร์ สิ่งแรกต้องดูคือ โบรกเกอร์ทำเงินจากอะไร หากินจากการเทรดตรงข้ามกับ position ลูกค้าหรือไม่ พวกนี้มี order book ในมือกรณีที่เทรด สวนลูกค้า ย่อมทำให้ลูกค้า เสียเปรียบจากกลยุทธ์ต่างๆ(การปรับราคา,volatility,stoploss hunter)
4. เทรดเดอร์ ต้องขยัน มีวินัย และมีความสามารถในการจัดการเวลา เขาบอกว่าชีวิตช่วงแรกค่อนข้างหนัก และยุ่งตลอดทั้งวัน ดังนั้นไม่ง่ายไม่สบายแน่นอน
5. เทรดเดอร์ต้องเอาชนะตวามเป็นมนุษย์ ต้องคุมอารมณ์ ตัดอารมณ์ให้ได้ เช่นความโลภ ความกลัว ความรู้สึกที่มีกับผลกำไรขาดทุน
6. Anton Kreil เขาเลือกเทรดแบบกลาง ผสมยาว ไม่ได้เล่นสั้น เขาบอกเลือกการเทรดต้องหาให้เหมาะกับตัว เลือกที่ได้เปรียบ
7. ทำการบ้าน เขาใช้วิธีการเทรดผสมทั้ง fundamental และ technical มีการทำการบ้าน checklist หาข้อมูลสินค้าที่เทรดใน watch list โดยเฉพาะถ้าเป็นหุ้นก็ต้องดูพื้นฐาน ก่อนหาจังหวะเทรดจาก technical
8. เขาใช้เทคนิค Top down approach มองภาพรวมเศรษฐกิจโลก ไล่จาก 4200 asset จัดแยกเป็น level และสร้าง watch list แต่ละตลาด 30-40 ตัว จากนั้นนำมาจัด portfolio จัดสัดส่วนของเงินที่ใช้ให้เหมาะสม โดยเขาจะเลือกมี position ในพอร์ตประมาณ 10-20 ตัว
9. อย่าทำอะไรโง่ๆ ผิดพลาด ต้องรู้จักบริหารความเสี่ยง เลือกเทรด เลือกเสี่ยงให้เหมาะสถานการณ์
10. รู้จักทำ stress test บน scenario ต่างๆ เช่น กรณีราคาหุ้นตกลง 30% จะมีแผนจัดการยังไง? กรณีราคาน้ำมันขึ้นหรือลงรุนแรง จะทำยังไง เขาบอกว่าทุกอย่างมีผลเชื่อมโยงกัน และเกิดสิ่งไม่คาดคิดได้เสมอ เทรดเดอร์ต้องมีแผน ล่วงหน้าไว้ ทำให้สามารถรับมือ ตอบสนองกับเหตุการณ์ต่างๆได้ดี
11. เทรดเดอร์จะเป็นมืออาชีพได้ต้อง ขยันฝึกฝน หัดเทรดเงินจริง เก็บประสบการณ์ ไม่สามารถเก่ง หรือรวยได้เร็วๆสั้น ภายใน 5 ปี เพราะต้องเรียนรู้ เจอกับทุกภาวะให้รอด
12. อย่าเชื่อคนง่าย ลดความคาดหวังจะรวยเร็วๆ หัดตั้งคำถาม หัดวิเคราะห์ หัดทดลอง เขาบอกคนมักเลือกจะฟังในสิ่งที่อยากฟัง เชื่อในคำโฆษณา การให้ความหวังว่าจะ รวย จะได้เงินมาก จากนั้นก็เอาเงินมาทิ้ง พอร์ตระเบิด(ล้างพอร์ต) และหาเงินมาเริ่มใหม่ แต่ทำซ้ำแบบเดิม สุดท้ายก็ไม่สามารถพัฒนาอยู่รอดได้จริงๆ
13. การเทรดเงินตัวเอง กับการบริหารเงินคนอื่นต่างกัน การเทรดเงินคนอื่นต้องมีความรับผิดชอบสูง ต้องมีความละเอียด รอบคอบ รวมถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยง
14. Anton Kreil เปิดสถาบันสอนเทรดเดอร์ เขาฝึกโครงการระยะ 12 เดือนสอนเทรดแบบให้เทรดจริง และถ้าผลงานดีสอบผ่าน มีงานให้ทำ มีเงินให้เทรด หรือฝากงานให้กับ เฮ็ดฟันด์หรือฟันด์ที่ต้องการเทรดเดอร์ โดยเขาสามารถรับรอง trade record ให้ได้
15. ข้อดีของการเป็นเทรดเดอร์อิสระ คือเรื่องเวลาและการออกแบบชีวิต แต่เขาแนะนำให้ลองเข้าไปทำงานเป็นเทรดเดอร์ประจำ fund หรือ investment bank สัก 2-3 ปีเพื่อหาประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ตลาด
16. Anton Kreil จะเป็นเทรดเดอร์คนแรก ที่เดินทางไปในอวกาศ และทำสถิติเทรด ส่งคำสั่งการเทรด ลงมาจากยานอวกาศ โดยเขาตั้งเป้าจะเทรดค่าเงิน usd สัก 10 ล้านเหรียญ(หาสปอนเซอร์เป็น Broker หรือบริษัทขาย trading platform) และมีการถ่ายทอดสด live stream ทาง you tube
สรุปใจความหลักๆประมาณนี้ครับ
ชัยภัทร
Part I
ประวัติและประสบการณ์ทำงาน
1. เขาเกิดและโตที่เมือง Liverpool เริ่มเทรดตอนอายุ 16 ตอนปี 1994 ตอนนั้นเขาดูสารคดีที่มีเรื่องของตลาดหุ้น เรื่องของนักเก็งกำไร(trader) ทำให้เขาสนใจและคิดว่า นั้นแหละคือสิ่งที่อยากทำ เลยเริ่มต้นศึกษาจริงจัง
2. เขาเทรดหุ้น พอเข้ามหาวิทยาลัย Economics undergraduate ที่ Manchester University ก็ยังเทรดหุ้น ระหว่างเรียน เน้นเทรดหุ้นเล็ก หุ้น ICT หุ้น IPO โดยสมัยนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่อำนวยและราคาแพงต้องเทรดผ่านโทรศัพท์เป็นหลัก เขาตั้งเป้าหมายชัดเจนคือ จะเป็นเทรดเดอร์
3. เริ่มทำงานตอนเข้าปี 4 เล่าว่า Goldman Sachs (GS) ไปบรรยายเรื่องอาชีพ investment bank ที่มหาวิทยาลัย เขาสนใจ เลยส่ง email ตัว trading record ไปให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ได้เรียกเข้าสัมภาษณ์ และได้เข้าทำงาน ทั้งทียังเรียนไม่จบ
4. ฝึกงานที่ลอนดอน 2 เดือนจากนั้นย้ายไปฝึกต่อที่ นิวยอร์ต เข้าเทรดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นเล็ก หุ้น it เป็นหลักทำเงินเยอะมาก ในยุคก่อนฟองสบู่ .dotcom ที่หุ้นอินเตอร์เน็ตและไอที มาแรง
5.ได้ เข้าทำงานที่โต๊ะเทรด ประจำ NYSE ของ GS ตำแหน่งนักวิเคราะห์ ได้เรียนรู้ ได้ฝึกการเทรดกับทีม หลายอย่าง เขาเล่าว่าเป็นเรื่องยากแต่ถ้าท้าย และทำให้เขาพัฒนาทักษะการคิด การตัดสินใจ
6. การเรียนรู้ในตลาดจริง เป็นเรื่องสำคัญ อย่างกลัวจะผิด เพราะนั้นคือกระบวนการ แต่ต้องมีแผนควบคุมความเสียหายจากการผิดพลาดให้ได้
7. volatility สำคัญต่อเทรดเดอร์ เรียนรู้และใช้มันให้เป็น
8.ทำงา่น Goldman Sachs ประมาณ 4 ปีกว่า ได้เรียนรู้อะไรมาก ทำงานกับคนเก่ง คนที่ active และมีความบ้างานสูง เขารับผิดชอบวงเงินเทรด 10 million ยิ่งเทรดได้กำไรยิ่งได้วงเงินเพิ่ม เขาเทรดผลงานดี จน desk ที่อยู่ได้เงินบริหารถึง 500 million
9. ออกจาก Goldman Sachs ย้ายไปทำงาน Lehman Brothers (โดนจีบซื้อตัว) ไปรับงานเทรดฝ่าย European Trading Operations ทำเงินให้บริษัทได้มากพอควร จนได้เลื่อนเป็น Vice President ของ European Trading Desk จากนั้น 2 ปีก็ย้าย ไป JP Morgan เทรดเงินขนาด 100 million เขาเทรดในช่วงตลาดขาขึ้น จนเกือบเข้าช่วงปลายก่อนเกิดวิกฤติการเงิน subprime เขาก็เริ่มอิ่มตัวกับเกมส์ แข่งกันทำเงิน ทำตัวเลขที่ดุเดือนของ investment bank เลยลาออกจาก JP Morgan
10. ลาออกมาเทรด เงินตัวเอง และใช้เวลาเดินทางเที่ยวรอบโลก 17 เดือน เริ่มเบื่อ ลูกค้าคนหนึ่งที่เป็น hedgefund นั้นคือ Lex van dam ชวนมาทำรายการ million dollar trader เขาเลยกลับมาทำ รายการฮิต โด่งดังมากที่อังกฤษ จนเขากลายเป็นคนดัง ที่เดินไปไหนก็มีคนรู้จัก เขาไม่ชอบความดัง ฮึดอัด ย้ายจากเมืองหลวงไปอยู่ย่านชานเมืองแทน
Part II
คำแนะนำ
1. Anton Kreil แนะนำเทรดเดอร์รุ่นใหม่ต้องฝึกหนัก เพราะตลาดยากขึ้น คนเก่งมากขึ้น โอกาสในเฟิร์ม หรือบริษัทลดน้อยลง
2. การฝึกแนะนำให้เทรด หลายๆตลาด หลายสินค้า เพื่อให้เกิดการกระจายโอกาสและความเสี่ยง แต่ถ้ามือใหม่อาจจะเริ่มจากหุ้น เพราะ volatile ของสินค้าต่ำ เทรดง่ายกว่าตลาดค่าเงินและตลาดอนุพันธ์อื่นๆ
3. การเลือกโบรกเกอร์ สิ่งแรกต้องดูคือ โบรกเกอร์ทำเงินจากอะไร หากินจากการเทรดตรงข้ามกับ position ลูกค้าหรือไม่ พวกนี้มี order book ในมือกรณีที่เทรด สวนลูกค้า ย่อมทำให้ลูกค้า เสียเปรียบจากกลยุทธ์ต่างๆ(การปรับราคา,volatility,stoploss hunter)
4. เทรดเดอร์ ต้องขยัน มีวินัย และมีความสามารถในการจัดการเวลา เขาบอกว่าชีวิตช่วงแรกค่อนข้างหนัก และยุ่งตลอดทั้งวัน ดังนั้นไม่ง่ายไม่สบายแน่นอน
5. เทรดเดอร์ต้องเอาชนะตวามเป็นมนุษย์ ต้องคุมอารมณ์ ตัดอารมณ์ให้ได้ เช่นความโลภ ความกลัว ความรู้สึกที่มีกับผลกำไรขาดทุน
6. Anton Kreil เขาเลือกเทรดแบบกลาง ผสมยาว ไม่ได้เล่นสั้น เขาบอกเลือกการเทรดต้องหาให้เหมาะกับตัว เลือกที่ได้เปรียบ
7. ทำการบ้าน เขาใช้วิธีการเทรดผสมทั้ง fundamental และ technical มีการทำการบ้าน checklist หาข้อมูลสินค้าที่เทรดใน watch list โดยเฉพาะถ้าเป็นหุ้นก็ต้องดูพื้นฐาน ก่อนหาจังหวะเทรดจาก technical
8. เขาใช้เทคนิค Top down approach มองภาพรวมเศรษฐกิจโลก ไล่จาก 4200 asset จัดแยกเป็น level และสร้าง watch list แต่ละตลาด 30-40 ตัว จากนั้นนำมาจัด portfolio จัดสัดส่วนของเงินที่ใช้ให้เหมาะสม โดยเขาจะเลือกมี position ในพอร์ตประมาณ 10-20 ตัว
9. อย่าทำอะไรโง่ๆ ผิดพลาด ต้องรู้จักบริหารความเสี่ยง เลือกเทรด เลือกเสี่ยงให้เหมาะสถานการณ์
10. รู้จักทำ stress test บน scenario ต่างๆ เช่น กรณีราคาหุ้นตกลง 30% จะมีแผนจัดการยังไง? กรณีราคาน้ำมันขึ้นหรือลงรุนแรง จะทำยังไง เขาบอกว่าทุกอย่างมีผลเชื่อมโยงกัน และเกิดสิ่งไม่คาดคิดได้เสมอ เทรดเดอร์ต้องมีแผน ล่วงหน้าไว้ ทำให้สามารถรับมือ ตอบสนองกับเหตุการณ์ต่างๆได้ดี
11. เทรดเดอร์จะเป็นมืออาชีพได้ต้อง ขยันฝึกฝน หัดเทรดเงินจริง เก็บประสบการณ์ ไม่สามารถเก่ง หรือรวยได้เร็วๆสั้น ภายใน 5 ปี เพราะต้องเรียนรู้ เจอกับทุกภาวะให้รอด
12. อย่าเชื่อคนง่าย ลดความคาดหวังจะรวยเร็วๆ หัดตั้งคำถาม หัดวิเคราะห์ หัดทดลอง เขาบอกคนมักเลือกจะฟังในสิ่งที่อยากฟัง เชื่อในคำโฆษณา การให้ความหวังว่าจะ รวย จะได้เงินมาก จากนั้นก็เอาเงินมาทิ้ง พอร์ตระเบิด(ล้างพอร์ต) และหาเงินมาเริ่มใหม่ แต่ทำซ้ำแบบเดิม สุดท้ายก็ไม่สามารถพัฒนาอยู่รอดได้จริงๆ
13. การเทรดเงินตัวเอง กับการบริหารเงินคนอื่นต่างกัน การเทรดเงินคนอื่นต้องมีความรับผิดชอบสูง ต้องมีความละเอียด รอบคอบ รวมถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยง
14. Anton Kreil เปิดสถาบันสอนเทรดเดอร์ เขาฝึกโครงการระยะ 12 เดือนสอนเทรดแบบให้เทรดจริง และถ้าผลงานดีสอบผ่าน มีงานให้ทำ มีเงินให้เทรด หรือฝากงานให้กับ เฮ็ดฟันด์หรือฟันด์ที่ต้องการเทรดเดอร์ โดยเขาสามารถรับรอง trade record ให้ได้
15. ข้อดีของการเป็นเทรดเดอร์อิสระ คือเรื่องเวลาและการออกแบบชีวิต แต่เขาแนะนำให้ลองเข้าไปทำงานเป็นเทรดเดอร์ประจำ fund หรือ investment bank สัก 2-3 ปีเพื่อหาประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ตลาด
16. Anton Kreil จะเป็นเทรดเดอร์คนแรก ที่เดินทางไปในอวกาศ และทำสถิติเทรด ส่งคำสั่งการเทรด ลงมาจากยานอวกาศ โดยเขาตั้งเป้าจะเทรดค่าเงิน usd สัก 10 ล้านเหรียญ(หาสปอนเซอร์เป็น Broker หรือบริษัทขาย trading platform) และมีการถ่ายทอดสด live stream ทาง you tube
สรุปใจความหลักๆประมาณนี้ครับ
ชัยภัทร