ระบบเทรด ที่เน้นการสร้าง cash flow จากการเทรดบน volatility นอกจากเราจะได้ความสามารถในการควบคุมขนาดของ risk ในรูปแบบฟังก์ชั่นของเวลา time ยังสามารถเอาผลของการเทรด หรือ trading record มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมราคา ต่อได้อีกด้วย (ผลจะพยายามอธิบายเรื่องยากให้เห็นภาพได้ง่ายที่สุด)
สาย Quant โมเดลการเทรด ที่เน้นการเก็บข้อมูลการเทรดมากๆ มันยิ่งทำให้เทรดเดอร์หรือผู้พัฒนา เข้าใจพฤติกรรมราคาและพฤติกรรมของตลาดได้มากขึ้น มันแตกต่างจากการดูกราฟ ที่เน้นการมองไปที่ movement หรือ pattern อย่างเดียว เพราะการตีความจากการมองบางครั้ง มันไม่ได้สะท้อนภาวะการเปลี่ยนแปลง หรือความผันผวนจริงที่เกิดได้ รวมไปถึงมองไม่เห็น flow การเคลื่อนของเงิน ที่ตัวพลักดัน ราคา
ยกตัวอย่างในภาพข้าง ผมตัดบางส่วนที่เปิดเผยได้ มาแสดงเพราะอยากประกอบการอธิบายว่าเวลาพัฒนา Quant Model หรือทำตัว algorithmic trading พวกนี้มันทำงาน มองราคา(Price) ต่างจากมนุษย์ Quant มองภาวะการเกิด ความถี่และการเปลี่ยนแปลง มันเป็นปัจจุบันและเป็น raw data ที่เกิด
ภาพ Heat map เราจะเห็น โซนราคา ที่เราสามารถเก็บ cash flow ได้มันจะสะท้อน frequency ที่เกิดของ action ในราคาไปในตัวด้วย บางโซนราคา มีการย้ำของราคานานๆ สะท้อนภาวะการต่อสู้ของแรง หรือพลังงานที่เขามาในตลาดในช่วง period นั้นๆ เช่นเดียวกันการ flow ของกระสุนที่เก็บได้ นี้ก็สะท้อนภาวะการไหล การเคลื่อน บน low volatility ทำให้เราเห็น Trend เป็นต้น (ความเป็นจริงมันมีรายละเอียดที่เยอะเบื้องหลังมันคือ Math บวกกับเป็นโมเดลที่พัฒนาไม่ขออธิบายเยอะไปกว่านี้นะ)
ดังนั้นการทำโมเดลเทรด ที่ดี การเก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูล มันทำให้เราเข้าใจภาวะความเป็นไป ใช้เป็น information ในการบริหารจัดการเงิน จัดการความเสี่ยงได้ ดียิ่งไปอีก
ในภาพผลตัดมาให้ดูแค่ 10 วันลองคิดดูว่าถ้าเทรดมา 1 ปี 3 ปี เราจะมีข้อมูลมากแค่ไหน และมันจะทำให้เราเข้าใจ มองเห็นเกมส์ เห็นการ action ของ player ยิ่งพวก Quant Fund ที่เทพเช่นของปู่ jame simon เขาทำการวิเคราะห์เก็บข้อมูลแบบ data science ขั้นสูงจำนวนหลายๆสิบปี เขาจะยิ่งสกัดและมองเห็นภาวะความเป็นไปได้มากไปอีก(ถึงได้บอกว่า การไปสู้หรือไปเดาเกมส์พวก smart money ยิ่งยากไปอีก)
ปล. ขอตอบคำถามไปในตัวด้วยนะ ทำไม Quant trading ถึงไม่จำเป็น ต้องใช้กราฟ ใช้แท่งเทียน หรือมานั่งลากเป้า เดาราคากัน
สาย Quant โมเดลการเทรด ที่เน้นการเก็บข้อมูลการเทรดมากๆ มันยิ่งทำให้เทรดเดอร์หรือผู้พัฒนา เข้าใจพฤติกรรมราคาและพฤติกรรมของตลาดได้มากขึ้น มันแตกต่างจากการดูกราฟ ที่เน้นการมองไปที่ movement หรือ pattern อย่างเดียว เพราะการตีความจากการมองบางครั้ง มันไม่ได้สะท้อนภาวะการเปลี่ยนแปลง หรือความผันผวนจริงที่เกิดได้ รวมไปถึงมองไม่เห็น flow การเคลื่อนของเงิน ที่ตัวพลักดัน ราคา
ยกตัวอย่างในภาพข้าง ผมตัดบางส่วนที่เปิดเผยได้ มาแสดงเพราะอยากประกอบการอธิบายว่าเวลาพัฒนา Quant Model หรือทำตัว algorithmic trading พวกนี้มันทำงาน มองราคา(Price) ต่างจากมนุษย์ Quant มองภาวะการเกิด ความถี่และการเปลี่ยนแปลง มันเป็นปัจจุบันและเป็น raw data ที่เกิด
ภาพ Heat map เราจะเห็น โซนราคา ที่เราสามารถเก็บ cash flow ได้มันจะสะท้อน frequency ที่เกิดของ action ในราคาไปในตัวด้วย บางโซนราคา มีการย้ำของราคานานๆ สะท้อนภาวะการต่อสู้ของแรง หรือพลังงานที่เขามาในตลาดในช่วง period นั้นๆ เช่นเดียวกันการ flow ของกระสุนที่เก็บได้ นี้ก็สะท้อนภาวะการไหล การเคลื่อน บน low volatility ทำให้เราเห็น Trend เป็นต้น (ความเป็นจริงมันมีรายละเอียดที่เยอะเบื้องหลังมันคือ Math บวกกับเป็นโมเดลที่พัฒนาไม่ขออธิบายเยอะไปกว่านี้นะ)
ดังนั้นการทำโมเดลเทรด ที่ดี การเก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูล มันทำให้เราเข้าใจภาวะความเป็นไป ใช้เป็น information ในการบริหารจัดการเงิน จัดการความเสี่ยงได้ ดียิ่งไปอีก
ในภาพผลตัดมาให้ดูแค่ 10 วันลองคิดดูว่าถ้าเทรดมา 1 ปี 3 ปี เราจะมีข้อมูลมากแค่ไหน และมันจะทำให้เราเข้าใจ มองเห็นเกมส์ เห็นการ action ของ player ยิ่งพวก Quant Fund ที่เทพเช่นของปู่ jame simon เขาทำการวิเคราะห์เก็บข้อมูลแบบ data science ขั้นสูงจำนวนหลายๆสิบปี เขาจะยิ่งสกัดและมองเห็นภาวะความเป็นไปได้มากไปอีก(ถึงได้บอกว่า การไปสู้หรือไปเดาเกมส์พวก smart money ยิ่งยากไปอีก)
ปล. ขอตอบคำถามไปในตัวด้วยนะ ทำไม Quant trading ถึงไม่จำเป็น ต้องใช้กราฟ ใช้แท่งเทียน หรือมานั่งลากเป้า เดาราคากัน