มีคำถามหนึ่งทาง email ถามมาว่า ทำไมคนยุคก่อนเซียนเทคนิคอล รุ่นแรกใช้เครื่องมือแล้วประสบความสำเร็จ?
ส่วนตัวผมมองว่า มันเกิดจากความเข้าใจ ในยุคเริ่มต้นคนได้อ่านงานต้นฉบับ เราะจะของจริง เห็น สมมติฐานและข้อจำกัดของเครื่องมือ ที่ผู้พัฒนาเขาถ่ายทอดตรงๆ แต่มายุคหลังๆเราเรียนเทคนิคอล จากการชวนเชื่อมากไปนิด ทำให้ง่ายไม่ต้องคิดดูด้วยตาแล้วจำอย่างเดียว แถมเพื่อให้ศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มคำโฆษณาสรรพคุณ ว่าแม่น ว่ารวยว่ากำไร เข้าไปอีก
คำแนะนำผมคือใช้อะไร กลับไปอ่านงานวิจัยต้นฉบับของผู้พัฒนา จะได้รู้เขาคิดยังไง และใช้มันเพื่อทำอะไรจริงๆ เน้นเข้าใจอย่าเอาแต่จำ ท่องจำ
เช่นจะใช้ RSI กลับไปทำความเข้าใจว่า J. Welles Wilder ยุค 1978 เขาคิดยังไง ตลาดเก็งกำไรยุคเขาเป็นอย่างไร(บอกได้เลยมันต่างจากยุคนี้มาก ลองศึกษา factor นี้ดีๆด้วย) ทำไมเขามีสมมติฐานแบบนี้ แล้วทำไม ต้องใช้ค่าพารามิเตอร์ 14 หรือ 7 คิดตั้งคำถาม หาคำตอบ ใช้แบบเป็นวิทยาศาสตร์มันจะสำเร็จ มันจะพัฒนาต่อได้
เมื่ออ่านมากๆจะพบคนคิดเทคนิคอลส่วนมาก เขาเน้นจากการสังเกต เน้นการอธิบายการเปลี่ยนแปลง บนกรอบบริบทที่เขาสนใจทั้งนั้น ถ้าจะบอกว่าเทคนิคอลใช้ไม่ได้ ผมบอกเลยว่าไม่จริง มันใช้ได้แต่ใช้ให้ถูก ใช้ให้เป็น อย่าไปใช้แบบผิดๆ เท่านั้นเอง
อีกประเด็นที่ผมยกให้คนรุ่นอดีตก่อนใช้เทคนิคอลแล้ว ทำผลงานดีส่วนหนึ่ง คือความพยายาม ถ้าเรียนคณิตศาสตร์สายวิทย์มา ลองนึกถึงตอนเราใช้กระดาษกราฟสร้างกราฟ วิเคราะห์ผลการทดลองสิครับ ยุ่งยากและใช้แรงนะ คนสมัยนั้นทดลองและทดสอบด้วยวิธีแมนนวลแบบนี้ต้องถึก อดทนและมีวินัยจริงๆ(เพราะทำทุกวัน ติดตามทุกวัน) ไม่ง่ายแบบเรา
ดังนั้น มันเลยเป็นการ commitment ตัวเอง ในการลงมือทำ และฝึกฝนเรื่องของวินัยไปในตัวด้วย ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ต่างหากที่น่าจะเป็น key แห่งความสำเร็จ แต่มันกลับหาได้ยากในเทรดเดอร์ยุคปัจจุบัน ยุคที่ใครๆก็อยากจะรีบรวย อยากทำกำไรแบบไม่เหนื่อยกัน
ส่วนตัวผมมองว่า มันเกิดจากความเข้าใจ ในยุคเริ่มต้นคนได้อ่านงานต้นฉบับ เราะจะของจริง เห็น สมมติฐานและข้อจำกัดของเครื่องมือ ที่ผู้พัฒนาเขาถ่ายทอดตรงๆ แต่มายุคหลังๆเราเรียนเทคนิคอล จากการชวนเชื่อมากไปนิด ทำให้ง่ายไม่ต้องคิดดูด้วยตาแล้วจำอย่างเดียว แถมเพื่อให้ศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มคำโฆษณาสรรพคุณ ว่าแม่น ว่ารวยว่ากำไร เข้าไปอีก
คำแนะนำผมคือใช้อะไร กลับไปอ่านงานวิจัยต้นฉบับของผู้พัฒนา จะได้รู้เขาคิดยังไง และใช้มันเพื่อทำอะไรจริงๆ เน้นเข้าใจอย่าเอาแต่จำ ท่องจำ
เช่นจะใช้ RSI กลับไปทำความเข้าใจว่า J. Welles Wilder ยุค 1978 เขาคิดยังไง ตลาดเก็งกำไรยุคเขาเป็นอย่างไร(บอกได้เลยมันต่างจากยุคนี้มาก ลองศึกษา factor นี้ดีๆด้วย) ทำไมเขามีสมมติฐานแบบนี้ แล้วทำไม ต้องใช้ค่าพารามิเตอร์ 14 หรือ 7 คิดตั้งคำถาม หาคำตอบ ใช้แบบเป็นวิทยาศาสตร์มันจะสำเร็จ มันจะพัฒนาต่อได้
เมื่ออ่านมากๆจะพบคนคิดเทคนิคอลส่วนมาก เขาเน้นจากการสังเกต เน้นการอธิบายการเปลี่ยนแปลง บนกรอบบริบทที่เขาสนใจทั้งนั้น ถ้าจะบอกว่าเทคนิคอลใช้ไม่ได้ ผมบอกเลยว่าไม่จริง มันใช้ได้แต่ใช้ให้ถูก ใช้ให้เป็น อย่าไปใช้แบบผิดๆ เท่านั้นเอง
อีกประเด็นที่ผมยกให้คนรุ่นอดีตก่อนใช้เทคนิคอลแล้ว ทำผลงานดีส่วนหนึ่ง คือความพยายาม ถ้าเรียนคณิตศาสตร์สายวิทย์มา ลองนึกถึงตอนเราใช้กระดาษกราฟสร้างกราฟ วิเคราะห์ผลการทดลองสิครับ ยุ่งยากและใช้แรงนะ คนสมัยนั้นทดลองและทดสอบด้วยวิธีแมนนวลแบบนี้ต้องถึก อดทนและมีวินัยจริงๆ(เพราะทำทุกวัน ติดตามทุกวัน) ไม่ง่ายแบบเรา
ดังนั้น มันเลยเป็นการ commitment ตัวเอง ในการลงมือทำ และฝึกฝนเรื่องของวินัยไปในตัวด้วย ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ต่างหากที่น่าจะเป็น key แห่งความสำเร็จ แต่มันกลับหาได้ยากในเทรดเดอร์ยุคปัจจุบัน ยุคที่ใครๆก็อยากจะรีบรวย อยากทำกำไรแบบไม่เหนื่อยกัน