เมื่อเช้ามีคำถามว่า "Crude WTI และ Brent ราคามาบรรจบในโซนเดียวกัน" มีนัยยะอะไร
ขอตอบคราวๆ ตามนี้ ปกติ กลุ่ม WTI และ Brent เป็น Sweet crude ทั้งคู่โดยในอดีตเลย ราคาจะห่างกันไม่มาก spread จะแคบไม่กี่เหรียญ(+/-5) โดยปกติ WTI คุณภาพและความเบาจะดีกว่า เลยแพงกว่า
แต่จุดเปลี่ยน ที่ทำให้ Brent crude oil ราคามาแพงเหนือกว่าได้ มากกว่าค่าเฉลี่ย ก็เพราะในช่วงปี 2011 เกิดประเด็น ดีมานด์น้ำมันในอเมริกาลด ทำให้เกิด surplus หรือปริมาณน้ำมันส่วนเกินใน คลังสำรองที่ Oklahoma บวกกับตอนนั้นมีประเด็นวิกฤ ติที่ลิเบีย ทำให้ supply น้ำมันยุโรป ลดลง
ตรงนี้ทำให้ Brent แพงขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป ลองดูภาพ spread ประกอบ (เชิงการเทรด เทรดเดอร์สาย Quant จะทำการเทรดแบบ arbitrage หรือเทรดแบบ Long WTI short ฺBrent สองตัวนี้คู่กันมาตั้งแต่ช่ วงความไม่แน่นอนตอนนั้นอาจจ ะต้องเปลี่ยนโมเดล)
ที่มันมาน่าสนใจในปี 2015 นี่คือ ราคาสองตัวทั้ง WTI และ Brent ลงต่ำสถิติรอบหลายปี ทำ new low และสำคัญสหรัฐมาแก้กฏหมายให ่ส่งออกน้ำมันได้ (ตรงนี้ไม่มีข้อมูลราคาและป ริมาณการส่งออกไปยุโรป) แต่ข่าวมันก็เข้ามากดดันทำใ ห้ Brent ราคาวิ่งลงมาหา WTI
ถ้าเทรดแบบปกติ ไม่ต้องกังวลหรือไม่คิดอะไร มาก ส่วนคนเล่น arbitrage หรือเทรดแบบ hedging ถือว่าเป็นโจทย์ที่ต้องมา calibrate โมเดลกันใหม่เหมือนกัน
รูปประกอบจาก
energyandcapital.com
ขอตอบคราวๆ ตามนี้ ปกติ กลุ่ม WTI และ Brent เป็น Sweet crude ทั้งคู่โดยในอดีตเลย ราคาจะห่างกันไม่มาก spread จะแคบไม่กี่เหรียญ(+/-5) โดยปกติ WTI คุณภาพและความเบาจะดีกว่า เลยแพงกว่า
แต่จุดเปลี่ยน ที่ทำให้ Brent crude oil ราคามาแพงเหนือกว่าได้ มากกว่าค่าเฉลี่ย ก็เพราะในช่วงปี 2011 เกิดประเด็น ดีมานด์น้ำมันในอเมริกาลด ทำให้เกิด surplus หรือปริมาณน้ำมันส่วนเกินใน
ตรงนี้ทำให้ Brent แพงขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป ลองดูภาพ spread ประกอบ (เชิงการเทรด เทรดเดอร์สาย Quant จะทำการเทรดแบบ arbitrage หรือเทรดแบบ Long WTI short ฺBrent สองตัวนี้คู่กันมาตั้งแต่ช่
ที่มันมาน่าสนใจในปี 2015 นี่คือ ราคาสองตัวทั้ง WTI และ Brent ลงต่ำสถิติรอบหลายปี ทำ new low และสำคัญสหรัฐมาแก้กฏหมายให
ถ้าเทรดแบบปกติ ไม่ต้องกังวลหรือไม่คิดอะไร
รูปประกอบจาก
energyandcapital.com