"ความสำเร็จ" คำคงนี้เป็นคำที่นักลงทุนหลายคน ถวิลหา อยากได้มาครอบครอง อยากได้มาประดับกาย ยิ่งเมื่อคำว่าความสำเร็จในด้านการลงทุน ด้วยแล้วมันจะหมายถึงความร่ำรวย ความมั่งมี หรือที่หลายคนใช้แทนคำว่า "อิสระภาพทางการเงิน" ดูสวยหรู ดูงดงามชวนฝันถึง แม้ทุกคนจะใฝ่ฝันถึง ก็อาจจะไม่ใช่ว่าจะไปถึงได้ดังใจฝัน
กว่าจะเข้าใกล้คำว่า "ความสำเร็จ" เราต้องเดินทางฝ่าฟันอุปสรรคนานานับประการ ต้องใช้ความอดทน และความพยายามไม่น้อย ต้องต่อสู้กับจิตใจตนเอง ที่สำคัญต้องเจอกับ "ความล้มเหลว" ที่เข้ามาทักทาย ระหว่างการเดินทางไปสู้เป้าหมายตลอดเวลา บุคคลสำคัญที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ ก็ล้วนแต่ต้องผ่านกระบวนการเดียวกันแทบทั้งนั้น ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ต้องสั่งสมประสบการณ์ และใช้ความอดทนพยายามสูงจนกว่าจะมาถึงวันแห่งชัยชนะ
ตัวอย่างที่ผมชอบและเห็นได้ชัดเจนคือ บุคคลสำคัญของโลกที่ทำให้เรามีหลอดไฟใช้กันทุกวันนี้ คือคุณ โทมัส อัลวา เอดิสัน ที่กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า
"I will not say I failed 1,000 times, I will say that I discovered there are 1,000 ways that can cause failure."
ผมจะไม่กล่าวว่ามันเป็นการล้มเหลว 1000 ครั้ง แต่ผมจะกล่าวว่านั้นคือ การค้นพบวิธีที่ที่ใช้ไม่ได้ผล 1000 วิธีต่างหาก
แนวคิดนี้สอนให้เราไม่กลัวกับความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวมันมักจะมาถึงก่อนความสำเร็จเสมอ โทมัส อัลวา เอดิสัน เรียนรู้จากการทดลอง จากความล้มเหลว จากความผิดพลาด แบบไม่ยอมแพ้ จนสามารถค้นพบความสำเร็จ บางคนกลัวที่จะผิดพลาด กลัวที่จะล้มเหลว จนทำให้ไม่ยอมเริ่มทำอะไรเลย
การจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก็เช่นกัน เมื่อคุณเข้ามายังตลาดหุ้น เป้าหมายนั้นคือ ต้องการรวย ต้องการประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราทำคือต้องมานะ พยายาม ต้องค้นหา กระบวนการที่ถูกต้อง ที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ต้องลิ้มรส การขาดทุน หรือความล้มเหลว เพื่อที่จะหาประสบการณ์และเรียนรู้จากมัน
โทมัส อัลวา เอดิสัน ยังพยายามได้ถึง 1000 ครั้งแล้วทำไมเราถึงจะต้องยอมแพ้ในความล้มเหลว เพียงไม่กี่ครั้ง การได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและไม่ทำผิดซ้ำสอง จะยิ่งเพิ่มพูน ทักษะในการเอาตัวรอดให้เราได้มากขึ้น ยิ่งเมื่อเราพัฒนากระบวนการ ที่ดี ที่ใช้ได้ผล สามารถสร้างผลกำไรแบบยั่งยืน และต่อเนื่อง ไม่ใช่การล่อเป้า วัดดวง กำไรขาดทุนแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ เมื่อนั้นคำว่า ประสบความสำเร็จ คงจะอยู่ห่างจากเราไม่ไกล
แต่สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนควรจะเรียนรู้ นั้นคือ การล้มเหลวอย่างมีชั้นเชิง หรือขาดทุนอย่างไรไม่ให้หมดตัว แนวคิดนี้คือการเรียนรู้ที่จะ บริหารจัดการเงินทุน(Money management) ลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้ วางแผนจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหาย ผมชอบคำพูดของคุณ จอร์จ โซรอส ที่กล่าวว่า
“สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าคุณถูกหรือผิด แต่สิ่งสำคัญก็คือ คุณกำไรเท่าไรเมื่อคุณถูก และคุณขาดทุนเท่าไรเมื่อคุณผิด”
คำพูดนี้สอนให้เรารู้จัก ไม่ต้องกังวลในความผิดพลาด แต่ก็ต้องไม่ประมาท จำกัดความเสียหายที่จะเกิด แต่ยามที่ถูกทางก็ควรปล่อยให้สร้างกำไรแบบสมเหตุสมผลตามแนวโน้ม สร้างผลตอบแทนที่เติบโต ต่อเนื่อง ในระยะยาว สักวันก็คงจะถึง ฝั่งฝัน ได้ลิ้มรสความสำเร็จในที่สุด
แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดคือ การได้พยายาม ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แม้ปลายทางจะไม่จบลงที่ความสำเร็จ แต่สิ่งที่เราจะพบก็คือ ความภาคภูมิใจ
การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก็ไม่จำเป็นที่ว่า ต้องร่ำรวยหรือมีเงินพันล้าน หมื่นล้าน เพื่อให้คนยอมรับในตัวเราจากมูลค่าของทรัพย์สินเสมอไป สำหรับผมคำว่า ประสบความสำเร็จ นั้น หมายถึงการที่เราได้พยายามจนถึงที่สุด จนเอาชนะตัวเราเองได้ หากระบวนการในการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะกับตัวเราได้ เราอาจจะไม่ต้องมีเงินมากมาย อาจจะมีทรัพย์สินแค่พอเพียง พอดีกับความเสี่ยงที่รับได้ ให้เงินงอกเงยต่อเนื่อง แน่นอน แบบนั้นก็เรียกว่า เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ในระดับหนึ่งแล้วครับ
กว่าจะเข้าใกล้คำว่า "ความสำเร็จ" เราต้องเดินทางฝ่าฟันอุปสรรคนานานับประการ ต้องใช้ความอดทน และความพยายามไม่น้อย ต้องต่อสู้กับจิตใจตนเอง ที่สำคัญต้องเจอกับ "ความล้มเหลว" ที่เข้ามาทักทาย ระหว่างการเดินทางไปสู้เป้าหมายตลอดเวลา บุคคลสำคัญที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ ก็ล้วนแต่ต้องผ่านกระบวนการเดียวกันแทบทั้งนั้น ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ต้องสั่งสมประสบการณ์ และใช้ความอดทนพยายามสูงจนกว่าจะมาถึงวันแห่งชัยชนะ
ตัวอย่างที่ผมชอบและเห็นได้ชัดเจนคือ บุคคลสำคัญของโลกที่ทำให้เรามีหลอดไฟใช้กันทุกวันนี้ คือคุณ โทมัส อัลวา เอดิสัน ที่กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า
"I will not say I failed 1,000 times, I will say that I discovered there are 1,000 ways that can cause failure."
ผมจะไม่กล่าวว่ามันเป็นการล้มเหลว 1000 ครั้ง แต่ผมจะกล่าวว่านั้นคือ การค้นพบวิธีที่ที่ใช้ไม่ได้ผล 1000 วิธีต่างหาก
โทมัส อัลวา เอดิสัน
การจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก็เช่นกัน เมื่อคุณเข้ามายังตลาดหุ้น เป้าหมายนั้นคือ ต้องการรวย ต้องการประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราทำคือต้องมานะ พยายาม ต้องค้นหา กระบวนการที่ถูกต้อง ที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ต้องลิ้มรส การขาดทุน หรือความล้มเหลว เพื่อที่จะหาประสบการณ์และเรียนรู้จากมัน
โทมัส อัลวา เอดิสัน ยังพยายามได้ถึง 1000 ครั้งแล้วทำไมเราถึงจะต้องยอมแพ้ในความล้มเหลว เพียงไม่กี่ครั้ง การได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและไม่ทำผิดซ้ำสอง จะยิ่งเพิ่มพูน ทักษะในการเอาตัวรอดให้เราได้มากขึ้น ยิ่งเมื่อเราพัฒนากระบวนการ ที่ดี ที่ใช้ได้ผล สามารถสร้างผลกำไรแบบยั่งยืน และต่อเนื่อง ไม่ใช่การล่อเป้า วัดดวง กำไรขาดทุนแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ เมื่อนั้นคำว่า ประสบความสำเร็จ คงจะอยู่ห่างจากเราไม่ไกล
จอร์จ โซรอส
“สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าคุณถูกหรือผิด แต่สิ่งสำคัญก็คือ คุณกำไรเท่าไรเมื่อคุณถูก และคุณขาดทุนเท่าไรเมื่อคุณผิด”
คำพูดนี้สอนให้เรารู้จัก ไม่ต้องกังวลในความผิดพลาด แต่ก็ต้องไม่ประมาท จำกัดความเสียหายที่จะเกิด แต่ยามที่ถูกทางก็ควรปล่อยให้สร้างกำไรแบบสมเหตุสมผลตามแนวโน้ม สร้างผลตอบแทนที่เติบโต ต่อเนื่อง ในระยะยาว สักวันก็คงจะถึง ฝั่งฝัน ได้ลิ้มรสความสำเร็จในที่สุด
แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดคือ การได้พยายาม ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แม้ปลายทางจะไม่จบลงที่ความสำเร็จ แต่สิ่งที่เราจะพบก็คือ ความภาคภูมิใจ
การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก็ไม่จำเป็นที่ว่า ต้องร่ำรวยหรือมีเงินพันล้าน หมื่นล้าน เพื่อให้คนยอมรับในตัวเราจากมูลค่าของทรัพย์สินเสมอไป สำหรับผมคำว่า ประสบความสำเร็จ นั้น หมายถึงการที่เราได้พยายามจนถึงที่สุด จนเอาชนะตัวเราเองได้ หากระบวนการในการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะกับตัวเราได้ เราอาจจะไม่ต้องมีเงินมากมาย อาจจะมีทรัพย์สินแค่พอเพียง พอดีกับความเสี่ยงที่รับได้ ให้เงินงอกเงยต่อเนื่อง แน่นอน แบบนั้นก็เรียกว่า เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ในระดับหนึ่งแล้วครับ