เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา(18-05-2012) มีเหตการณ์ประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นอเมริกา นั้นคือมีการเปิดขายหุ้น IPO ครั้งสำคัญ โดยหุ้น IPO ของ Facebook ที่เข้าสู่ตลาดหุ้น NASDAQ อย่างเป็นทางการ โดยมีราคาจองที่ 38$ และได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมากจนทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการจัดการกับคำสั่งซื้อจนต้องเลือนเวลาขายหุ้นไปอีก ครึ่งชั่วโมง ท้ายสุดราคาเปิดทะยานไปถึง 42.05 และทำจุดสูงสุดที่ 45$(13%) ก่อนปิดตลาดที่ 38.28 ในวันนั้น แม้ว่าแนวโน้มของตลาดหุ้น NASDAQ จะไม่สดใสเพราะปัญหาหนี้สินจากกรีซจะกดดันตลาด แต่เฟสบุ๊คก็ปิดเขียวได้โดยไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
ก่อนจะเปิดขายหุ้น IPO ก็มีนักวิเคราะห์จากสำนักหนึ่งประเมินว่าในอนาคตหุ้น Facebook มีโอกาสเติบโตได้ถึง 50 % จากราคาจอง แต่กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางคนยังมองราคา IPO ของหุ้นตัวนี้ว่ามีราคาที่สูงเกินไป การเปิดขายหุ้น IPO วันนั้นทำให้ Facebook เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ได้รับเงินทุนจากการระดมทุนครั้งนี้ จากการขายหุ้นสามัญจำนวน 420 ล้านหุ้น สูงถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญ ในหนึ่งวัน นับว่าเป็นมูลค่าของ IPO ที่สูงเป็นอันดับต้นๆของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา การระดมทุนครั้งนี้ทำให้มูลค่าของ facebook สูงถึง 1.05 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่าบริษัท เป๊ปซี่ เป็นรองแค่ Apple และ Google เท่านั้น
การขายหุ้นครั้งนี้ยังทำให้ Mark Zuckerberg กลายเป็นมหาเศรษฐีลำดับที่ 29 ของโลกโดยมีทรัพย์สินมูลค่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญในวัย 28 ปี แต่ภาพลักษณ์ของเค้าตั้งแต่วันที่เริ่มต้นก่อนตั้ง Facebook ในหอพักมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University ) กับปัจจุบันก็ไม่ต่างอะไรนัก Mark Zuckerberg ยังเป็นคนธรรมดาที่สมถะติดดินเหมือนเดิม รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย โดยพ่อและแม่ของ Mark Zuckerberg และพี่น้องที่ได้รับหุ้นของ Facebook จนทำให้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน แต่พวกเขายังคงใช้ชีวิตตามเดิม พ่อของ Mark Zuckerberg ยังคงเปิดคลีนิคทำฟันและไปทำงานทุกวันเป็นปกติ (ถ้าจะยกเครดิตในความสำเร็จของ Facebook ผมว่าพ่อและแม่ของคุณมาร์คมีส่วนสนับสนุนเป็นอย่างมาก)
วันรุ่งขึ้นหลังการขายหุ้น IPO คุณ Mark Zuckerberg ได้เข้าพิธีแต่งงานท่ามกลางเพื่อน ญาติสนิท มิตรสหายสักขีพยานประมาณ 100 คนแบบหลายคนไม่รู้ตัวเพราะคิดว่าเป็นงานฉลองเรียนจบของเจ้าสาว กับ Priscilla Chan แฟนสาวที่พบกันที่ Harvard และคบหาดูใจกัน 9 ปี ในสวนหลังบ้าน งานแต่งเล็กๆที่ไม่ได้หรูหราจนแบบไฮโซหรือดาราบ้านเรา แม้กระทั้งแหวนหมั่นของคู่บ่าวสาวมหาเศรษฐีก็เป็นเพียงแหวนพลอยธรรมดา ไม่กี่กระรัต ไม่ใช่แหวนเพชรเม็ดโต ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เราเห็นว่า เงินไม่สามารถทำร้ายหรือเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเศรษฐีหนุ่มอย่าง Mark Zuckerberg ได้ แน่นอนว่านั้นหมายถึงวิถีคิดแบบเดียวกันของภรรยาสาว Priscilla Chan
ย้อนกลับไปดูเรื่องราวของ Priscilla Chan ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะสาวจีนคนนี้เป็นคนสู้ชีวิต มาจากครอบครัวฐานะปานกลางเป็นลูกครึ่งจีน ดิ้นรนจนได้มาศึกษาต่อที่ Harvard จนได้พบรักกับ Mark Zuckerberg ตั้งแต่วันที่เขาเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์หนุ่มธรรมดาที่มีเพียงความฝัน หมกตัวบุกปั้นความฝันให้เป็นจริงอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย Priscilla Chan ก็เป็นสาวอีกคนที่ชอบชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่หรูหรา ไม่ได้ช๊อปปิ้ง ทำผม นวดตัวไปวันๆ สังเกตได้จากเสื้อผ้าที่เธอใส่ ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับชุดเสื้อยืดกางเกงยีนของ Mark Zuckerberg เป็นอย่างดี Priscilla Chan ชอบอยู่บ้าน อ่านหนังสือ และทำอาหาร และชื่นชอบการท่องเที่ยวในวันหยุดยาวๆ Priscilla Chan จบการศึกษาจากฮาร์วาร์ดและได้ทำงานเป็นครูประถม จากนั้นก็ลาออกมาเรียนต่อหมอที่ University of California เพื่อที่จะเป็นกุมาร์แพทย์ ตามความฝัน จนสำเร็จการศึกษาในปัจจุบัน
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ก่อนจะเปิดขายหุ้น IPO ก็มีนักวิเคราะห์จากสำนักหนึ่งประเมินว่าในอนาคตหุ้น Facebook มีโอกาสเติบโตได้ถึง 50 % จากราคาจอง แต่กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางคนยังมองราคา IPO ของหุ้นตัวนี้ว่ามีราคาที่สูงเกินไป การเปิดขายหุ้น IPO วันนั้นทำให้ Facebook เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ได้รับเงินทุนจากการระดมทุนครั้งนี้ จากการขายหุ้นสามัญจำนวน 420 ล้านหุ้น สูงถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญ ในหนึ่งวัน นับว่าเป็นมูลค่าของ IPO ที่สูงเป็นอันดับต้นๆของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา การระดมทุนครั้งนี้ทำให้มูลค่าของ facebook สูงถึง 1.05 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่าบริษัท เป๊ปซี่ เป็นรองแค่ Apple และ Google เท่านั้น
ภาพงานฉลองเคาะระฆังขาย
ราคาล่าสุดอาจจะไม่แรงเท่าเปิดตัว
มาร์คและเจ้าสาว
วิถีชีวิตสบายๆของทั้งคู่
ถ้าย้อนกลับไปประมาณ 8 ปีที่แล้วเมื่อปี 2004 คุณ Mark Zuckerberg ก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่ต้องการจะทำธุรกิจที่ตัวเองฝันให้ประสบความสำเร็จ ในวันนั้นคงไม่มีใครบอกได้ว่าเขาจะกลายมาเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆของโลก ในวันนั้นถ้าเขาถอดใจกับปัญหา และยอมแพ้ในช่วงที่ไม่มีใครสนับสนุน ยอมแพ้ในวันที่มีคนปรามาส ก็คงจะไม่มี Facebook ในวันนี้ ดังนั้นถ้าเรามีความฝัน มีจุดมุ่งหมายก็จงพยายามทำให้เต็มความสามารถ อย่างไม่ท้อถอย เพราะเมื่อเราได้พยายายามจนถึงที่สุด สักวันโอกาสแห่งความสำเร็จก็ย่อมจะเป็นของเราครับ แค่เริ่มต้นคิด และลงมือทำ....
หอพักมหาวิทยาลัยที่ปลุกปั้นเฟสบุ๊ค
มาร์คเมื่อ 8 ปีที่แล้ว สมัยเริ่มต้นทำ facebook
อ้างอิงข่าว