บ่อยครั้งที่ผมเห็นหลายคนมักกล่าววจีเอื้อนเอ่ยออกมาว่า "อยากเล่นหุ้น", "อยากลงทุน" แท้จริงแล้ว คำเหล่านั้นมันห่อหุ้มนัยยะที่แท้จริงคือคำว่า "อยากรวย" ซึ่งคนส่วนมากอยากรวย แต่ไม่ค่อยยอมจ่ายต้นทุนของความรวย นั้นก็คือการลงแรงศึกษา และสร้างหนทางที่ไปสู่ความรวยอย่างแท้จริง แทนที่จะมุ่งหาแต่ทางลัด ซึ่งล้วนแต่จะพาท่านไปเข้ารกเข้าพง
ออกจากรูกันเถอะ
อยากรวยไม่ใช้เรื่องผิดสำหรับมนุษย์ที่มีกิเลสหนาเกิน ห้าเซนติเมตร ผมเชื่อว่าทุกคนคงคิดเช่นนั้น โดยเฉพาะมนุษย์รูแบบเราๆท่านๆ ที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น รูที่ว่าไม่ใช้รูในดินนะครับ แต่ผมหมายถึงรูทีน(routine) แบบตื่นเช้ารถติด เข้างาน นั่งหน้าคอม ประชุม พักกลางวัน กลับมานั่งหน้าคอมทำงานจนดึกอีก ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ชีวิตที่น่าอภิรมณ์เท่าไหร่ แต่เป็นชีวิตที่เราต้องดำเนิน เพราะด้วยเราเป็นชิ้นส่วนเล็กๆตัวหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ที่ต้องทำงานแลกเงิน และก็ต้องโดนหลอกดึงเงินออกจากกระเป๋าด้วยความอยาก ความฟุ้งเฟ้อ กับกระแสสังคมและค่านิยมเชิงวัตถุที่เกินจำเป็น ผ่านบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บัตรเงินผ่อน ต่างๆ ประเด็นเหล่านี้มันทำให้มนุษย์เงินเดือนก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนวันยันค่ำ ต้องทำงานหนักเป็นแรงงานรับใช้นายจ้างในระบอบทุนนิยมต่อไป
อิสระภาพทางการเงิน
การจะหลุดพ้น จากวัฏจักรนี้ทำได้โดยการลงทุนระยะยาว และใช้ความสามารถของผลตอบแทนแบบทบต้น ผ่านเงินปันผลเพื่อสร้างความยั่งยืนและงอกเงยของเงินออม แน่นอนว่าเป้าหมายปลายทางคืออิสระภาพทางการเงิน ผมชอบคำว่าอิสระภาพทางการเงิน เพราะคำนี้มันอิสระ ไม่ตายตัวสมชื่อ ผมเชื่อว่าหลายคนยังตีความหมายคำนี้ว่า มันคือ "ความร่ำรวย"
แท้จริงอาจจะถูกเพียงบางส่วนเพราะคำว่าอิสระภาพทางการเงิน นั้นมันขึ้นอยู่กับความพอเพียงของเรา บางคนพอเพียงผลตอบแทนหลังหักภาษีแค่ไม่กี่แสนบาทต่อปี เขาก็อยู่ได้แล้ว แต่บางคนมองไปไกลถึง หลักล้าน หลักสิบล้าน นั้นก็ไม่ผิดแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาและความอดทนที่มากกว่า ดังนั้นความรวยของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นกับต่อมผลิตความพอเพียงของแต่ละบุคคลนั้นเอง
การลงทุนระยะยาวจะทำให้เราสามารถไปสู่อิสระภาพทางการเงินได้อย่างแท้จริง เพราะว่าเงินนั้นทำงานแทนเราอย่างเต็มที่ ต่างจากนักเก็งกำไรระยะสั้นที่อาจจะรวยได้ผลตอบแทนมาก แต่เรายังต้องทำงานร่วมกับเงิน ยังต้องเฝ้าจอ ดูกราฟทุกวัน สรุปคือยังต้องทำงานหนักทุกวันอยู่ดี ต่างจากการลงทุนระยะยาวที่เน้นปันผลในกิจการที่เติบโตและพื้นฐานดี ทำให้เรามีเวลาเหลือออกไปสูดดมอากาศที่บริสุทธิ ไปทำงาน ทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบได้ เห็นไหมครับว่าผลตอบแทนอีกอย่างที่เราได้นอกจากความมั่นคงทางการเงินนั้นก็คือ "เวลาว่าง"
การออม ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
แน่นอนว่าการเริ่มเดินย่อมต้องมี ก้าวแรก ก่อนที่จะไปถึงจุดที่มีอิสระภาพทางการเงินนั้น มนุษย์เงินเดือนที่บ้านไม่รวย พ่อแม่ไม่ทิ้งมรดกเงินล้านไว้ให้ต้องทำ นั้นก็คือ "การออม" การออมนี้ละครับคือรากฐานของความสำเร็จ ดังนั้นถ้าท่านอยากรวย อยากหลุดพ้นจากรู สิ่งที่ต้องทำมีสองอย่างคือ ออมให้เต็มที่ และ ลงทุนให้ถูกทาง
ออมให้เต็มที่
การออมให้เต็มที่คือการลดจากรายจ่ายต่างๆที่มีให้น้อยลงที่สุด แต่การจะลดได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการติดตามการใช้จ่ายเงินเสียก่อน ดังนั้นการทำบัญชีครัวเรื่อนหรือบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนบุคคล สามารถช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ประเภทวัตถุนิยม เช่น กระเป๋ารุ่นใหม่ เสื้อผ้าแบรนด์เนม โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา ค่าอาหารแพงๆ ค่าเหล้า ค่าสังสรรค์กิจกรรมสังคม เป็นต้น การลด(หรือละเลิกได้) จะทำให้มีเงินออมมากขึ้น แบบที่คุณคิดไม่ถึง เมื่อมีเงินออมมาก ก็สามารถนำไปลงทุนได้มากด้วยเช่นกัน
ลงทุนให้ถูกทาง
การออมเงินในหุ้นปันผล คือ การลงทุนระยะยาวที่ถูกทาง เพราะหุ้นปันผลให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคารเป็นไหนๆ และยังสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้อีกด้วย การลงทุนในหุ้น ยังสร้างโอกาสที่ทำให้เงินออมเรางอกเงยได้จากยิ่งขึ้น แต่การลงทุนให้ถูกทางนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่หุ้นซึ่งปันผลสูงแล้ว เรายังต้องพิจรณาถึงความต่อเนื่องของการปันผล และโอกาสในการเติบโตของกิจการอีกด้วย นี้แหละครับ คือการศึกษา มันต้นทุนที่เราต้องจ่ายให้กับความรวยที่จะได้มา
ภาพตัวอย่าง ผลตอบแทนแบบมหัศจรรย์ดอกเบี้ยทบต้นของการออมเงินในหุ้นปันผล เงินต้น 100000 โตเกือบเป็น 1 เท่าใน 10 ปี
สรุป
อยากรวย ต้องเริ่มจากการออม และลงทุน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี พื้นฐานที่สำคัญของการลงทุน(สำหรับมนุษย์เงินเดือน ชนชั้นกลาง) นั้นคือการออม บางค้นเน้นไปที่การลงทุน พยายามหาทางลัด(รวยเร็ว) เทคนิคการลงทุนต่างๆ ถึงได้มาแต่ไม่ประหยัดอดออมได้มาก็ใช้ไปแบบนี้โอกาสสำเร็จก็ยาก
ผมเองไม่ได้เน้นที่รายรับ เพราะเชื่อว่า การเพิ่มรายรับไปตามเวลาและความเหมาะสมเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อีกประการ รายรับบางครั้งยิ่งดิ้นรนยิ่งสูญเสีย บางคนไปลงทุนขายของ ทำร้านอาหาร จับปลาสองมือไปคู่กับงานประจำ สุดท้ายก็ไปไม่รอดเจ๊ง สูญทั้งเงินออมที่นำไปลงทุนในธุรกิจ และสูญเสียโอกาสในการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน(เพราะเอาเวลางานไปทำอย่างอื่น) การทำงานประจำให้เต็มที่ก้าวหน้าตามสายอาชีพ แล้วประหยัดอดออมดูจะเป็นสิ่งที่เราควบคุมและทำได้ง่ายที่สุด
ดังนั้น ถ้าเราสามารถออมเงินได้มาก เพื่อเป็นเงินต้นทุนในการซื้อหุ้น ย่อมจะทำให้เราได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยการเลือกซื้อหุ้นปันผลต้องดูอัตราปันผลที่สูงกว่าเงินเฟ้อ มีนโยบายปันผลดี ประวัติการปันผลต่อเนื่อง และกิจการเติบโตได้ในอนาคต แล้วรอคอยปล่อยให้เงินทำงาน จนไปถึงวันที่เรามีอิสระภาพทางการเงินต่อไปครับ
ออกจากรูกันเถอะ
อยากรวยไม่ใช้เรื่องผิดสำหรับมนุษย์ที่มีกิเลสหนาเกิน ห้าเซนติเมตร ผมเชื่อว่าทุกคนคงคิดเช่นนั้น โดยเฉพาะมนุษย์รูแบบเราๆท่านๆ ที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น รูที่ว่าไม่ใช้รูในดินนะครับ แต่ผมหมายถึงรูทีน(routine) แบบตื่นเช้ารถติด เข้างาน นั่งหน้าคอม ประชุม พักกลางวัน กลับมานั่งหน้าคอมทำงานจนดึกอีก ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ชีวิตที่น่าอภิรมณ์เท่าไหร่ แต่เป็นชีวิตที่เราต้องดำเนิน เพราะด้วยเราเป็นชิ้นส่วนเล็กๆตัวหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ที่ต้องทำงานแลกเงิน และก็ต้องโดนหลอกดึงเงินออกจากกระเป๋าด้วยความอยาก ความฟุ้งเฟ้อ กับกระแสสังคมและค่านิยมเชิงวัตถุที่เกินจำเป็น ผ่านบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บัตรเงินผ่อน ต่างๆ ประเด็นเหล่านี้มันทำให้มนุษย์เงินเดือนก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนวันยันค่ำ ต้องทำงานหนักเป็นแรงงานรับใช้นายจ้างในระบอบทุนนิยมต่อไป
อิสระภาพทางการเงิน
การจะหลุดพ้น จากวัฏจักรนี้ทำได้โดยการลงทุนระยะยาว และใช้ความสามารถของผลตอบแทนแบบทบต้น ผ่านเงินปันผลเพื่อสร้างความยั่งยืนและงอกเงยของเงินออม แน่นอนว่าเป้าหมายปลายทางคืออิสระภาพทางการเงิน ผมชอบคำว่าอิสระภาพทางการเงิน เพราะคำนี้มันอิสระ ไม่ตายตัวสมชื่อ ผมเชื่อว่าหลายคนยังตีความหมายคำนี้ว่า มันคือ "ความร่ำรวย"
แท้จริงอาจจะถูกเพียงบางส่วนเพราะคำว่าอิสระภาพทางการเงิน นั้นมันขึ้นอยู่กับความพอเพียงของเรา บางคนพอเพียงผลตอบแทนหลังหักภาษีแค่ไม่กี่แสนบาทต่อปี เขาก็อยู่ได้แล้ว แต่บางคนมองไปไกลถึง หลักล้าน หลักสิบล้าน นั้นก็ไม่ผิดแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาและความอดทนที่มากกว่า ดังนั้นความรวยของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นกับต่อมผลิตความพอเพียงของแต่ละบุคคลนั้นเอง
การลงทุนระยะยาวจะทำให้เราสามารถไปสู่อิสระภาพทางการเงินได้อย่างแท้จริง เพราะว่าเงินนั้นทำงานแทนเราอย่างเต็มที่ ต่างจากนักเก็งกำไรระยะสั้นที่อาจจะรวยได้ผลตอบแทนมาก แต่เรายังต้องทำงานร่วมกับเงิน ยังต้องเฝ้าจอ ดูกราฟทุกวัน สรุปคือยังต้องทำงานหนักทุกวันอยู่ดี ต่างจากการลงทุนระยะยาวที่เน้นปันผลในกิจการที่เติบโตและพื้นฐานดี ทำให้เรามีเวลาเหลือออกไปสูดดมอากาศที่บริสุทธิ ไปทำงาน ทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบได้ เห็นไหมครับว่าผลตอบแทนอีกอย่างที่เราได้นอกจากความมั่นคงทางการเงินนั้นก็คือ "เวลาว่าง"
การออม ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
แน่นอนว่าการเริ่มเดินย่อมต้องมี ก้าวแรก ก่อนที่จะไปถึงจุดที่มีอิสระภาพทางการเงินนั้น มนุษย์เงินเดือนที่บ้านไม่รวย พ่อแม่ไม่ทิ้งมรดกเงินล้านไว้ให้ต้องทำ นั้นก็คือ "การออม" การออมนี้ละครับคือรากฐานของความสำเร็จ ดังนั้นถ้าท่านอยากรวย อยากหลุดพ้นจากรู สิ่งที่ต้องทำมีสองอย่างคือ ออมให้เต็มที่ และ ลงทุนให้ถูกทาง
ออมให้เต็มที่
การออมให้เต็มที่คือการลดจากรายจ่ายต่างๆที่มีให้น้อยลงที่สุด แต่การจะลดได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการติดตามการใช้จ่ายเงินเสียก่อน ดังนั้นการทำบัญชีครัวเรื่อนหรือบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนบุคคล สามารถช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ประเภทวัตถุนิยม เช่น กระเป๋ารุ่นใหม่ เสื้อผ้าแบรนด์เนม โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา ค่าอาหารแพงๆ ค่าเหล้า ค่าสังสรรค์กิจกรรมสังคม เป็นต้น การลด(หรือละเลิกได้) จะทำให้มีเงินออมมากขึ้น แบบที่คุณคิดไม่ถึง เมื่อมีเงินออมมาก ก็สามารถนำไปลงทุนได้มากด้วยเช่นกัน
ลงทุนให้ถูกทาง
การออมเงินในหุ้นปันผล คือ การลงทุนระยะยาวที่ถูกทาง เพราะหุ้นปันผลให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคารเป็นไหนๆ และยังสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้อีกด้วย การลงทุนในหุ้น ยังสร้างโอกาสที่ทำให้เงินออมเรางอกเงยได้จากยิ่งขึ้น แต่การลงทุนให้ถูกทางนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่หุ้นซึ่งปันผลสูงแล้ว เรายังต้องพิจรณาถึงความต่อเนื่องของการปันผล และโอกาสในการเติบโตของกิจการอีกด้วย นี้แหละครับ คือการศึกษา มันต้นทุนที่เราต้องจ่ายให้กับความรวยที่จะได้มา
สรุป
อยากรวย ต้องเริ่มจากการออม และลงทุน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี พื้นฐานที่สำคัญของการลงทุน(สำหรับมนุษย์เงินเดือน ชนชั้นกลาง) นั้นคือการออม บางค้นเน้นไปที่การลงทุน พยายามหาทางลัด(รวยเร็ว) เทคนิคการลงทุนต่างๆ ถึงได้มาแต่ไม่ประหยัดอดออมได้มาก็ใช้ไปแบบนี้โอกาสสำเร็จก็ยาก
ผมเองไม่ได้เน้นที่รายรับ เพราะเชื่อว่า การเพิ่มรายรับไปตามเวลาและความเหมาะสมเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อีกประการ รายรับบางครั้งยิ่งดิ้นรนยิ่งสูญเสีย บางคนไปลงทุนขายของ ทำร้านอาหาร จับปลาสองมือไปคู่กับงานประจำ สุดท้ายก็ไปไม่รอดเจ๊ง สูญทั้งเงินออมที่นำไปลงทุนในธุรกิจ และสูญเสียโอกาสในการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน(เพราะเอาเวลางานไปทำอย่างอื่น) การทำงานประจำให้เต็มที่ก้าวหน้าตามสายอาชีพ แล้วประหยัดอดออมดูจะเป็นสิ่งที่เราควบคุมและทำได้ง่ายที่สุด
ดังนั้น ถ้าเราสามารถออมเงินได้มาก เพื่อเป็นเงินต้นทุนในการซื้อหุ้น ย่อมจะทำให้เราได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยการเลือกซื้อหุ้นปันผลต้องดูอัตราปันผลที่สูงกว่าเงินเฟ้อ มีนโยบายปันผลดี ประวัติการปันผลต่อเนื่อง และกิจการเติบโตได้ในอนาคต แล้วรอคอยปล่อยให้เงินทำงาน จนไปถึงวันที่เรามีอิสระภาพทางการเงินต่อไปครับ