ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

รีวิว Following the Trend: Diversified Managed Futures Trading

มีน้องท่านหนึ่งขอให้แนะนำหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์ Trend following , ถ้าเล่มที่ผมอ่านแล้วชอบจนอยากแนะนำต่อต้องเล่มนี้ "Following the Trend: Diversified Managed Futures Trading " ของ Andreas F. Clenow , ซึ่งต่างจากหนังสือ Trend Following ส่วนใหญ่ที่จะใช้ตัวอย่าง ตลาดและพฤติกรรมราคาในยุคอดีต, แน่นอนว่า ระยะยาวผลตอบแทนมันดูดีตามแนวโน้มขาขึ้น ,ตาม bull market cycle แต่ตลาดปัจจุบันที่ผันผวน มันจะยากมากจะเทรดแล้วได้กำไรก้อนโต เสี่ยงที่จะขาดทุน โดยเฉพาะ การใช้เครื่องมือเทคนิคอลเน้นหาสัญญาณตาม Trend เป็นหลัก ไม่ได้วิเคราะห์ความผันผวน(volatility)ของราคา, โดยหนังสือเล่มนี้พูดถึง Trend following แบบ systematic futures trading โดยเน้นด้านการสร้าง porftfolio ที่ใช้การ diversification เพื่อทำ risk management โดยมีทั้งการกระจาย เงิน(cash management) ในการเทรดผสม(combination of different types of trading models) เพื่อประสิทธิภาพของผลตอบแทนที่เหมาะสม - ผสม asset class แตกต่างกัน(Cross asset) ใช้ประโยชน์จากรอบการเปลี่ยนแปลงราคา ( Trend & Correlation) , เช่น stock/index future, commodity, c

How to use leverage in Forex for your best chance of survival

ก่อนจะหัดเทรด Forex ต้องทำความเข้าใจเรื่องการบริหารจัดการเงินให้ดีก่อน โดยเฉพาะการใช้ Leverae ถ้ายังประเมินความเสี่ยงและผลกระทบจากการขาดทุนไม่ออก ก็อย่าไปใช้ Leverage เลย อันตรายเปล่าๆครับ ผมแนะนำคลิปนี้จากรายการ chatwithtraders "How to use leverage in Forex markets for your best chance of survival" ถ้าไม่เชื่อคนไทย ก็ลองฟังเทรดเดอร์มืออาชีพต่างชาติที่เขาเทรดในตลาดจริงๆดูก็ได้ เป็นบทสัมภาษณ์ของคุณ Joel Kruger เล่าประสบการณ์หลายปีของเขาและแนะนำอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับการเป็น fx trader ที่น่าสนใจมากคือแนวคิดเรื่องของการบริหารเงินและบริหารความเสี่ยง เขาบอกว่าปัญหาของมือใหม่คือ เรื่องของการ Over trading พยายามเร่งทำเงินทำกำไรมากเกินไป จนติดกับดักการใช้ Leverage ที่สูงหลายร้อยเท่า ซึ่งไม่ได้เหมาะกับพฤติกรรมราคา ทน market volatile ของสินค้าค่าเงินไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องล้างพอร์ต สูญเสียเงินไป Kruger แนะนำมือใหม่ว่า เริ่มจากการเรียนรู้ตลาด เรียนรู้พฤติกรรมราคา และทดลองพัฒนาระบบเทรดของตัวเองก่อน ไม่ต้องสนใจทำเงินหรือโกยกำไร เริ่มจาก Leverage ต่ำ เช่น 1:1 เทรดบัญชีเล็กๆ ให้ได้ 6 เดือน หรื

Algorithmic Trading ด้วย python

มีสมาชิกถามเข้ามาขอแนวทางการใช้ python ทำ algorithmic trading ซึ่งจริงๆปัจจุบัน มันสะดวกกว่าอดีตมาก มีหลายตัวที่ช่วยเราได้ ตั้งแต่ทั้งเรื่อง Data Analysis , Trading Strategies , Backtesting และ Trading API ซึ่งหลายตัวผมเคยได้โพสแนะนำไปแล้ว เช่น OpenBBTerminal , TA-Lib(Python) , QuantStat และ Zipline เป็นต้น ถ้าอยากลองทำด้านนี้ไม่ยาก แต่เพื่อความรวดเร็วแนะนำหาหนังสือมาอ่าน เพราะหนังสือ text book จะสอนเรื่องการทำระบบเทรด ทั้ง algorithm ส่วน Trading Strategies และ Money Management ,Order Management ด้วย โดยปัจจุบันมีหลายเล่มมาก ทั้งแบบพื้นฐานยันขั้นสูง ที่มีออกมาขาย โอกาสหน้าจะมารีวิว เล่มที่ผมซื้อมาอ่านให้ฟังต่อไป แต่วันนี้สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นแต่ยังไม่อยากเสียเงิน ก็ลองดูเล่มนี้ก่อนได้ ชื่อ Algorithmic Trading with Python: Quantitative Methods and Strategy Development เขียนโดย Chris Conlan อาจจะเก่าหน่อยออกปี 2020 แต่เป็นอีกเล่มที่มีตัวอย่าง code ให้ฟรี ซึ่งถ้ายังไม่อยากซื้อลองแวะไป Github จากลิงค์ข้างล่าง เพื่อลองดูตัวอย่าง algorithm และการวางโครงสร้างของ code ในส่วนต่างๆได้ ครอบคล

Magnificent 7 กับคำเตือนเรื่องฟองสบู่

รายงาน จาก DeutscheBank ข้อมูลของ Magnificent 7 หุ้นดาวเด่น Big Tech ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา เทคโนโลยี AI และมีฐานธุรกิจกระจายทั่วโลก อย่าง Apple, Amazon, Alphabet, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla ที่ล่าสุดทั้งผลกำไร และขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ Market Cap รวมกันทั้งหมด 7 บริษัท นั้นสูงกว่าบรรดาบริษัทเกือบทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในกลุ่ม G20 แต่ยังแพ้ 2ประเทศคือ จีน และญุี่ปุ่นที่ ผลกำไรทั้งหมดของทุกบริษัทในตลาดหุ้นรวมกัน ขณะที่ล่าสุด Market Cap ของ Microsoft และ Apple รวมกันก็ใกล้เคียงกับบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย และ UK ดูเหมือนเป็นเรื่องดีสำหรับ นักลงทุนแต่นักวิเคราะห์ของ DeutscheBank มองว่ามันคือการกระจุกตัว และเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวของตลาดหุ้นสหรัฐ และบริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 จะเชื่อมโยงไปยังตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ที่ถ้าเกิดวิกฤติ รอบใหม่ ก็อาจจะเกิดการรุกรามกระทบไปยังประเทศต่างๆทั้วโลกด้วย ประเด็นนี้ นักกลยุทธ์ Michael Hartnett ของ ฺBofa ก็ออกมาพูดถึง โดยสรุปคือเขาบอกว่าตลาดยคล้ายกับตอนปี 2000 , หุ้น AI และ tech stocks ,

System & Goal

การจะสำเร็จได้นั้น มันต้องมีทั้งระบบและเป้าหมาย+แรงจูงใจ ไปด้วยกันถึงจะสำเร็จ ถ้าไม่มีระบบเทรด ก็ขาดแผนขาดความชัดเจน มันก็จะไร้ประสิทธิภาพ  สะเปะสะปะมโนไปตามอารมณ์ตามความความเฟ้อฝัน แต่กว่าระบบ(Trading System) มันจะ Work มันต้องผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหามากมายกว่าจะปรับจูนให้มันใช้ได้จริงและใช้ได้เหมาะสมกับเรา ดังนั้นเป้าหมายจึงสำคัญ และต้องชัดเจน เพิ่อใช้สำหรับยึดถือในใจ  ว่าเราพยายามทุ่มเท ทำงานหนักไปเพื่ออะไร......

Data Analysis ด้วย Python Quant Stat

คลิปสอนการใช้งานการทำ Data Analysis สำหรับข้อมูลราคาสินทรัพย์ เช่น ทองคำ, หุ้น และค่าเงิน ด้วย Python กับตัว Quant Stat Lib พอดีมีคำถามเรื่องการใช้งานเข้ามาเยอะ ผมก็เลยถือโอกาส live สดอธิบายแบบ step by step ให้ฟังเลย 

การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียผ่าน ETFs

 ก่อนหน้าเขียนถึงการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอินเดียผ่าน ETFs ไป, วันนี้เลยอยากนำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมมาแบ่งปัน เพื่อให้ลองไปศึกษากันต่อ โดยผมนำข้อมูลมาจาก ETFdb เขาจะมีข้อมูลสถิติ, ผลงาน และรายละเอียดของพอร์ตกองทุน ETFs แต่ละกองอย่างละเอียด  คัดเฉพาะที่เน้นในตลาดหุ้นอินเดียเป็นหลัก มีราวๆ 14 กองทุน, ถ้าเลือกเฉพาะกองใหญ่สภาพคล่องดี มี AUM ,มากกว่า $150 ล้าน ก็จะมี 7 กองทุน ETFs ที่เป็นที่นิยมมาก เช่น iShares MSCI India ETF (INDA)  ,WisdomTree India Earnings Fund (EPI) ,iShares India 50 ETF (INDY) ,iShares MSCI India Small-Cap ETF (SMIN) , Franklin FTSE India ETF (FLIN)  ซึ่งตัวหลักเหล่านี้มีผู้ออกและดูแลกองทุนเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ค่อนข้างหน้าเชื่อถือ และเปิดบริการมาหลายปี ,แต่ละกองทุนมีรายละเอียดของประเภทหุ้นและสัดส่วนเงินที่ถือครองในพอร์ตแตกต่างไป บางกองเน้น Growth stock , Big Cap, Small Cap หรือเฉพาะเจาะจงเน้นกลุ่ม internet & Ecommerce technology เป็นต้น โดยกรณีถ้าจะลงทุนหรือจะเทรด ถ้ามีบัญชี Global Trading Accont อย่างใน DIME, InnovestX ก็เทรดได้เลย  จุดสังเกตหนึ่งที่เคยบอกไ

PyPortfolioOpt

หลักจากใช้งานมาสักระยะ รู้สึก ชอบ PyPortfolioOpt มากคือเป็น lib ที่มีครบเรื่อง portfolio optimization จริงๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนจะทำ Risk parity , จะรัน CVaR หรือใช้ Black Litterman ก็ต้องเขียน code ยุ่งยากหลายขั้นตอนเลย กว่าจะเสร็จ แถมต้องใช้เครื่องแรงๆมารัน simulation , ตอนนี้ใช้ Google Colab ประมวลผลรันหา weight ด้วยโมเดลต่างๆ แล้วทดสอบ Portfolio Performance แสดงผลรับเป็นกราฟด้วย Quant Stat จบเลย ทุ่นแรงเบาเวลา ไม่มากจริงๆ ใครสนใจลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://pyportfolioopt.readthedocs.io/en/latest/

สาเหตุต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

พอดีมีคนถามเรื่องสาเหตุต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ผมไปเจอสรุปจาก KSecurities เขาเขียนอธิบายสาเหตุหลักๆ ตามที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ได้เข้าใจง่ายดี เลยนำบทความมาแนะนำต่อ สรุปสั้นๆ การเติบโตที่อ่อนแอ, Valuation สูงเมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน( PER ปี 2567 ที่ 14.35 เท่า ) และไม่มีปัจจัยบวกที่น่าดึงดูดทียบ กับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน(จากข้อมูลของ Bloomberg consensus ตัวเลข CAGR 2562-2567 ห่างกับเพื่อนบ้านในอาเซียนเป็นสองเท่าตัวเลย) ................................. เรามองว่าเหตุผลสำคัญมาจากแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของประเทศไทยหลังสิ้นสุดสถานการณ์โควิด-19 และมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน Bloomberg consensus คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะรายงานการเติบโตของกำไรสุทธิ (CAGR จากปี 2562-67) ที่ 4.39% เทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียนที่ 10.39% นอกจากนี้ SET Index ซึ่งขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 14.35 เท่า ยังค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียนซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตระดับเดียวกันหรือสูงกว่า เช่น อินโดนีเซีย (13.68 เท่า), มาเลเซีย (13.37 เท่า), ฟิลิปปินส์ (11.42 เท่า) แ

Risk Factor in 2024

  VisualCap ได้ทำการสรุป ความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2024 โดยเขามีการจัดกลุ่มตามความรุนแรงของผลกระทบและความน่าจะเป็นที่จะเกิดด้วย นำเสนอไว้ค่อนข้างน่าสนใจ โดยปัจจัยความเสี่ยงคุกคามที่มีความรุนแรงสุดต่อเศรษฐกิจ แต่โอกาสเกิดต่ำสุด คือ "ความกลัวเรื่องของวิกฤติหนี้สาธารณะ(Sovereign debt)"  ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่สูง แต่โอกาสเกิดขึ้นมาก คือ ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งปีนี้มีหลายขั่วหลายฝ่ายที่กำหลังเผชิญหน้ากันด้วย  ถ้าดูจากภาพ ก็จะเห็นว่า ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ต้อง กระชับพื้นที่รักษาความเสี่ยงในการเทรด ให้ดีครับ

Spot Bitcoin ETF

  Spot Bitcoin ETF .................................... สองวันนี้ Bitcoin ETF กระแสแรงมาก หลัง SEC เปิดเทรด Spot Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง เต็มรูปแบบในตลาดสหรัฐ โดยปัจจุบันมี AUM รวมกัน $467.11M และมีกองทุนจำนวน 11 กองทุนหลักที่สามารถเข้าเทรดได้ ถ้าเราเปิดบัญชี global trading ของโบรกเกอร์ต่างๆในบ้านส่วนใหญ่ก็จะสามารถเทรดได้เช่นกัน กองทุน ETF หลักได้แก่ 1. ARK Invest/21Shares (ARKB) 2. Bitwise (BITB) 3. Valkyrie Bitcoin Fund (BRRR) 4. Invesco Galaxy Bitcoin ETF (BTCO) 5. WisdomTree Bitcoin Trust (BTCW) 6. Hashdex Bitcoin (DEFI) 7. Franklin Bitcoin ETF (EZBC) 8. Fidelity Wise Origin Bitcoin Trust (FBTC) 9. Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) 10. VanEck Bitcoin Trust (HODL) 11. iShares Bitcoin Trust (IBIT) การเปิด Bitcoin ETF ในตลาดคริปโทมองว่าจะกลายเป็นตัวกระตุ้น demand สำหรับนักลงทุนและกองทุนที่ต้องการสะสม cryptocurrency โดยเฉพาะ Bitcoin(BTC) แบบถูกกฏหมายในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงผ่าน ETF แต่การลงทุนเราต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละ ETF ดีๆ แต่ละกองจะมีรายละเอียดแตกต่างกันมาก โดยเ

ที่เงินมากแค่ไหนจึงจัดว่ารวย

จำได้ว่าเคยเห็นมีเพจหนึ่งตั้งคำถามว่าแค่ไหนจัดว่ารวย , เลยนำเอาข้อมูลรายงานนี้ที่เจอจาก visualcapitalist มาฝาก โดยเขาทำกราฟิกสรุปจากรายงานของ UBS Global Wealth Report 2023 ที่สำรวจข้อมูลฐานทางการเงินในปี 2022 ของทุกประเทศทั่วโลกเพื่อประเมินเรื่องของความมั่งคั่ง(Wealth) ของคนในประเทศต่างๆ  โดยค่า Average Wealth per Person ในปี 2022 ของทั่วโลกอยู่ที่ $84,718. หรือ ราวๆ 2,965,130 บาท, โดยประเทศ Switzerland มีค่าเฉลี่ย Wealth ต่อคนสูงที่สุด $685,226 , ลำดับที่ตามมา คือ US,Australia, และ Denmark ในรายงานแสดงทั้งค่า Mean และค่า Median ,จะเห็นว่าผลของการจัดอันดับเปลี่ยนไปเลย หลายประเทศมูลค่า Wealth ที่มากก็ยังกระจุกอยู่ที่คนจำนวนน้อย ประเทศในอาเซียนอย่าง  Singapore ติดอันดับ 8 ,โดยมีค่า Average Wealth per Person ที่ $382,957  ส่วนประเทศไทยของเรา Average Wealth per Person อยู่ที่ $25,956 หรือราวๆ 908460 บาท  แม้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกไปมากพอควรแต่ก็ยังติดอันดับที่ 34 ของโลก, มองจากข้อมูลนี้ ถ้าเรามีสินทรัพย์สุทธิ(หักลบหนี้) มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท ก็น่าจะจัดว่า รวยได้(ระดับหนึ่ง) แล้วเช่นกัน

Poker & Game Theory Optimal(GTO) Strategy

ต้นปี 2023 ผมได้พูดถึงเรื่องการฝึกโป๊กเกอร์เอาไว้ โดยตอนนั้นผมเล่าให้ฟังว่าใช้ Game Theory Optimal,(GTO) Strategy จาก Mass Database Analysis(MDA) ฐานข้อมูลมากกว่า 50ล้านเกมส์ ที่ออกมาสร้างความฮือฮาอยู่พักหนึ่ง จริงๆมันไม่ใช่เครื่องมือวิเศษอะไร คนที่ไม่เชื่อก็ยังไม่เชื่อ ส่วนตัวผมเป็นสาย Quant ชอบเรื่องความน่าจะเป็นดังนั้น การ simulation และการประเมินความน่าจะเป็น จึงเป็นกลยุทธ์ที่ส่วนตัวสนใจศึกษา แต่การนำมาใช้นี้ ไม่ง่ายเลย มันไม่สามารถเอามาใช้ตรงๆได้เสมอไป เพราะเกมส์ เพราะผู้เล่นตรงข้ามบนโต๊ะมันแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้ได้คือการนำมาใช้วางแผนจัดการความเสี่ยง,การเล่น Pre Flop, กำหนดขนาด Bet size + Pot Control และการประเมิน Range Analysis ระหว่างเราและคู่แข่ง (เอาคราวๆแค่นี้ดีกว่า เพราะตัวผมเองเพิ่งทดลองใช้ได้ไม่นาน ไม่ได้เก่งอะไรที่จะไปฟันธงได้ว่ามัน work) มาเขียนบันทึกไว้เพราะ จากที่เคยเล่าเรื่อง GTO ก่อนหน้า ผมได้ทำการทดลอง FW Testing ระบบการเล่น Poker จริงๆกับคนจริงด้วย GTO Strategy ที่ปรับตั้งให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง ซึ่งในปี 2023 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาก็ตั้งใจจัดเวลา ในฝึ

เมื่อ High Frequency Trading (HFT) มาก็ว้าวุ่นกันเลย

ปี 2023 ที่แล้ว High Frequency Trading (HFT) กลายเป็นผู้ร้ายในตลาดหุ้นไทย โดยมีการพูดถึงการเทรดที่ผิดปกติ และความได้เปรียบจากความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย+เม็ดเงินขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิดความเสียเปรียบอย่างมากกับเทรดเดอร์(โดยเฉพาะ day trader) รวมไปถึงเกิดความผันผวนในราคาหุ้น(ขึ้นแรง/ลงแรง) ลากตบ พาติดดอยกระจาย , บางทีลากกันไป 6-10% เห็นสัญญาณซื้อเทคนิคอล(โดนบ่อยเช่น RSI หรือ พวกรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) ผ่านไป 1-2 แท่งเทียน สัญญาณตรงข้ามออกแล้ว ราคาดิ่ง -5% -7% ทำเอาว้าวุ่นเลย พวกนี้ทำเอาเทรดเดอร์ตัดขาดทุนกันแทบไม่ทัน บางตัวตัดขาดทุนเสร็จดีดสวนใส่หน้า ใน bar ถัดไปเลยก็มี พักเรื่องตลาดหุ้นไทยไว้เท่านี้ !!!! ................................................................................... โพสนี้เอาตัวอย่างคลิปหนึ่งใน TED TALK ชื่อ High frequency trading and the new algorithmic ecosystem โดย หัวข้อนี้บรรยายโดย Dr. Sean Gourley ตำแหน่งเป็น Co-Founder & CTO แห่ง Quid Inc. พูดถึง HFT ในตลาดสหรัฐที่มีการถกเถียงกันมานมนานมากในช่วงแรกๆของการอนุญาตให้มีการเทรดด้วย HFT ในตลาด(สถิติของตลาดสหรัฐเ

แนะนำ Commodity ETFs

  แนะนำ Commodity ETFs เพราะ จากโพสก่อนหน้าเรื่องผลตอบแทนของสินค้าในตลาด commodity มีน้องที่ติดตามถามเข้ามาว่า ถ้าอยากลงทุนหรือเทรดในสินค้า commodity ตลาดสหรัฐทำได้หรือไม่ คำตอบคือทำได้นะครับ โดยหลักๆการเทรด commodity สามารถเทรดได้ในตลาด Futures และแบบ Spot ผ่านสินค้า ETFs แต่แนะนำเทรดเดอร์มือใหม่ และไม่ต้องการความยุ่งยากในการเทรด ลองเริ่มต้นจาก Commodity ETFs ก่อนก็ได้เช่นกันครับ เพราะทุกวันนี้เปิดบัญชี global Trading account ที่รองรับการเทรดตลาดสหรัฐ เช่น DIME , InnovestX และอื่นๆ ก็สามารถเทรดได้เลย ข้อดีของ Commodity ETFs คือ เป็น spot ไม่ใช้ leverage ดังนั้นขนาดสินค้าออกแบบมาให้เล็ก ใช้เงินจำนวนไม่มากก็เทรดได้ + ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความผันผวนราคามากและเรื่องการ rollover กรณีสัญญาฟิวเจอร์หมดอายุ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของผู้ออก ETFs กลุ่มนี้ ซึ่งมีเชื่อมโยงสินค้าคอมโมหลายประเภท ทั้ง Gold , Oil , หรือแม้แต่สินค้าเกษตร รวมไปถึงยังมีแบบผสมที่เรียกว่า รวมคอมโมดิตี้หลายประเภทอีกด้วย ตัวอย่างภาพนี้ผมนำมาจาก Dime เราก็จะเห็นว่ามีเยอะมาก จุดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้ามาเรียนรู้ในตลาดสิน

ภาพรวมผลงานสินค้า commodity ปี 2023

จากสถิติย้อนหลัง เหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียม ที่ช่วงเดือนแรกของปี จะเป็นช่วงตลาดคอมโมดิตี้ มีความผันผวน และมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ตอบสนองกับปัจจัย เศรษฐกิจ(เช่น Inflation , Recession, Supply Shock ), การเมืองระหว่างประเทศ(ตะวันออกกลาง,รัสเซียยูเครน) และสภาพภูมิอากาศ จากข้อมูล performace (รวมสินค้า Futuresทั้งหมด)จะพบปีที่ผ่านซอฟท์คอมโมที่ปิดบวกแรงได้แก่ OJ , Cocoa , Coffee, Sugar ด้านโลหะมีค่า แรงสุดคือ Gold +7.07% ส่วนตัวที่ราคาร่วงแรง จะมีอย่าง Natural Gas , Wheat , Corn , Canola และ Soybean กลุ่มน้ำมัน WTI ไม่ได้ลงเยอะ เพราะปลายปีบวกคืนได้ แต่ปิดทั้งปีติดลบไปบางๆ WTI -7.6% ปีนี้ 2024 ก็น่าจับตาเช่นกัน คงติดตามต่อว่าจะเป็นวิกฤติ หรือโอกาส สำหรับเทรดเดอร์ ในตลาดคอมโมดิตี้

ไม่เลือกงานไม่ยากจน

ไม่เลือกงานไม่ยากจน คำพูดที่ได้ยินบ่อยมาก ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ถ้าอยากจะ รวย อยากจะขยับ คลาส จากชนชั้นกลาง อาจจะต้องใช้อีกชุด midset หนึ่งเลย... ปล. เราจะพบว่าการติดกับดักชนชั้นกลาง นี้น่ากลัวจริงๆ เพราะทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะค่าหมอค่ายา แพงมาก ถ้าแก่แล้วป่วย ค่ารักษาพยาบาล ถึงจะมีประกัน มีสิทธิ์รักษา แต่บางทีก็ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มไม่น้อยเลยทีเดียว อ้างอิงภาพจาก Anchoring Measurement of the Middle-Income Class to Subjective Evaluation https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/roiw.12553

รีวิว Modern Portfolio Management: Moving Beyond Modern Portfolio Theory

นำรีวิวหนังสือ "Moving Beyond MPT" ของ Dr. Todd Petzel’ ปัจจุบันเป็น CIO ที่ Offit Capital Advisors LLC. เป็นอีกท่านที่มีชื่อเสียงมาจากสายวิชาการและเข้ามาเป็นผู้บริหารกองทุนในตลาดมาหลายสิบปี , หนังสือเล่มนี้ออกมาปี 2021 ผมเพิ่งมีโอกาสซื้อมาอ่าน แล้วรู้สึกชอบเลยจะนำมาแบ่งปันรีวิวเอาไว้ครับ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ Portfolio Management ที่ใช้ได้ทั้งนักลงทุนและเทรดเดอร์ , เขียนอธิบายภาพรวมดี เล่าเรื่องเป็น step ขั้นตอนในการสร้างพอร์ตโฟริโอ แม้หนังสือมีเรื่องของโมเดลและตัวเลขบ้าง ไม่มากไม่ยากเทียบกับเล่มอื่นๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจของเล่มนี้คือ จับประเด็น ข้อจำกัดและข้อคิด เกี่ยวกับตลาดในปัจจุบัน ที่มีผลต่อ Modern Portfolio Theory (Harry Markowitz ,1952) มาเขียนและอภิปราย จุดที่ผมชอบมากคือ พูดถึงจุดสำคัญและข้อจำกัดของ MPT โดยเฉพาะข้อจำกัดที่เกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดในปัจจุบัน, อันส่งผลต่อ asset price และทำให้ยากที่จะโมเดลผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นไปตามที่คาดหวัง , นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพฤติกรรมของตัวนักลงทุน/ผจก.กองทุน ผ่านการอธิบายเรื่องของ Behavioral Finance หลายประเด็น ที

เครื่องมือฟรี Python Lib for Quant Trader

  น้องๆกลุ่มลุยหุ้นอเมริกา ชวนไป talk แลกเปลี่ยนประสบการณ์เทรดหุ้นอเมริกาปีนี้ ผมนำไอเดียเรื่อง quant analysis tool กับการเทรดหุ้นอเมริกาไปแบ่งปัน มีเครื่องมือฟรี Python Lib Package หลายตัวที่มีประโยชน์มากในการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นและทำระบบเทรด คิดว่าน่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ติดตามและเทรดหุ้นนอกเหมือนกัน เลยอยากมาแชร์ให้ในเพจ 1. OpenBBTerminal -ตัวนี้สำหรับ Data Service ทั้งราคา&งบการเงิน และการเข้าถึง Research ต่างๆ สไตล์ Bloomberg Termial เลยแต่ฟรี , และดึง data ทั้งหมดผ่าน API มาวิเคราะห์ด้วย Python ได้ -ความเจ๋งของตัวนี้คือข้อมูลสินทรัพย์เยอะมาก ทั้ง stock , options, crypto, forex, macro economy, fixed income, github.com/OpenBB-finance/OpenBBTerminal 2. TA-Lib(Python) - ตัวนี้สำหรับทำระบบเทรด เป็นเครื่องมือเทคนิคอลพื้นฐานด้าน quant จาก TA-Lib สะดวกในการทดสอบระบบ ไม่ต้องเขียนฟังชั่นเครื่องมือการวิเคราะห์เอง เรียกใช้งานง่าย รองรับ TA Indicator หลายตัวมาก เช่นเดียวกับเครื่องมือใน tradving view เลย https://github.com/TA-Lib/ta-lib-python 3. Zipline - ตัวนี้พัฒนาจากกลุ่ม quantop