GAP แปลว่าช่องว่าง ในการวิเคราะห์หุ้นเชิงเทคนิค GAP เป็นตัวบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง และสามารถใช้เป็นจุดสังเกตความผันผวนและการเคลื่อนตัวแบบรุนแรงไม่สม่ำเสมอ ฉับพลันทันทีทันใดในรูปแบบของการก้าวกระโดด ทั้งในทิศทางขาขึ้นและขาลงของราคาหุ้น จนทำให้เกิดช่องว่างของราคาขึ้นมา GAP ที่เกิดบนทิศทางขาขึ้นนั้นจะสะท้อนผิดปกติของแนวโน้ม และความต้องการของแรงซื้อที่มาก เช่นการแย่งกันซื้อแบบรุนแรง ในขณะทิศทางขาลง GAP ก็เป็นตัวสะท้อนการอ่อนตัวของราคาหุ้นแบบถดถอย จนเกิดการแย่งกันขาย แบบมีนัยยะสำคัญ เช่นการแตกตื่นตอบสนองต่อข่าว หรือปรากฏการณ์ผลกระทบจากภายนอกต่อตัวหุ้น
1. Common Gap
GAP นี้ในขาขึ้นต้องระวัง เพราะเป็น GAP ชมดอยล่อแมงเม่า ควรจะพิจารณา RSI ถึงค่า Overbought ควบคู่ไปด้วยครับ ก่อนที่จะเข้าซื้อตามไป
การเกิด GAP ไม่จำเป็นต้องเกิดพร้อมกันทั้ง หมด ส่วนมากที่จะเจอคือ Common GAP และ Break away GAP และการใช้ GAP คู่กับ Chart Pattern ใน TF ระดับนาทีหรือระดับวัน จะมีประโยชน์มากกับนักลงทุน เพื่อใช้วางแนวรับ แนวต้านในการสังเกตการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น
ผู้ลงทุนระยะกลางและยาวก็สามารถ นำความหมายที่ซ่อนอยู่ของ การเกิด GAP มาใช้เพื่อสร้างโอกาสได้ แต่ว่าสิ่งที่แน่นอนมักไม่มีอะไรแน่นอนเสมอไป การนำ GAP ไปใช้ก็เป็นเพียงการนำรูปแบบราคามาประกอบร่วมกับการตัดสินใจด้วยเครื่องมือทางเทคนิคชนิดอื่นๆ
รูปจาก
1. Common Gap
เป็น GAP แบบธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ มีความสำคัญน้อยจะเกิดได้ในช่วงที่มีการซื้อ ขาย เบาบาง สังเกตดูได้จาก Volume ของหุ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งจะมาพร้อมกับการแกว่งตัวของราคาออกด้านข้าง sideway เรียกได้ว่าเจอ GAP แบบนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นตกใจ
การกระโดดของราคาทั้งในทิศทางขาขึ้นและขาลง เรียกได้ว่าจะเกิดเมื่อมีการฟอร์มรูปแบบทิศทางของราคาที่ชัดเจนแล้ว และมีการกระโดดของ Volume เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ที่น่าสังเกตอีกประการคือดัชนีเช่น RSI หรือ STO อาจจะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นทันกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในระหว่างวัน ตัวนี้เจอบ่อยกรณีที่มีข่าวดีหรือร้ายออกมากระทบกับตัวหุ้น
Breakaway Gap ถ้าเกิดแล้ว ส่วนมากจะไม่สามารถปิดได้ในทิศทางเดียวกัน จะต้องมีการกลับตัวเพื่อเปลี่ยนทิศาทางของราคาก่อนจึงจะสามารถปิดได้ และนอกจากนี้ GAP ยังสามารถนำมาใช้เป็นแนวรับ แนวต้านของการเคลื่อนตัวของราคาได้อีกด้วย
Breakaway Gap ถ้าเกิดแล้ว ส่วนมากจะไม่สามารถปิดได้ในทิศทางเดียวกัน จะต้องมีการกลับตัวเพื่อเปลี่ยนทิศาทางของราคาก่อนจึงจะสามารถปิดได้ และนอกจากนี้ GAP ยังสามารถนำมาใช้เป็นแนวรับ แนวต้านของการเคลื่อนตัวของราคาได้อีกด้วย
ตัวนี้จะมักเกิดตามหลัง Breakaway Gap เมื่อทิศทางของราคาชัดเจน และมีความมั่นใจมากขึ้น ประกอบกับ volume มีมาต่อเนื่อง บางตำราก็กำหนดให้ Runaway GAP เป็นตัว หลักไมล์วัด ระยะการวิ่งของราคาในทิศทางนั้นโดย Runaway GAP จะเกิดที่ครึ่งทางของราคานับจากที่เกิด Breakaway Gap หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดบอกการกลับตัวในทิศทางตรงข้ามที่กำลังจะมาถึงในอีกครึ่งทางข้างหน้า และแน่นอนว่าถ้าเป็น Runaway GAP จริง (ไม่ใช่ common gap) ตัว GAP จะไม่ถูกปิดลงก่อนครับ
4. Exhausting Gap
GAP ที่จะอาจจะเกิดก่อนจะมีการกลับตัวของราคา เป็น GAP ปลายทาง กรณีที่เป็นขาขึ้น ถ้าเกิด Exhausting Gap ก็จะเป็นการเตือนถึงการหมดแรงในขาขึ้น เป็นการกระโดดครั้งสุดท้ายก่อนจะจบรอบในทิศทางนี้ แน่นอนว่าถ้าเจอ Exhausting Gap ในขาขึ้นก็ควรที่จะทยอยออกมิใช่รับเพิ่มนะครับ Exhausting Gap มีโอกาสที่จะถูกปิดหรือไม่ก็ได้
GAP นี้ในขาขึ้นต้องระวัง เพราะเป็น GAP ชมดอยล่อแมงเม่า ควรจะพิจารณา RSI ถึงค่า Overbought ควบคู่ไปด้วยครับ ก่อนที่จะเข้าซื้อตามไป
ตัวนี้เป็นลักษณะการบ่งบอกถึงการกลับทิศอีกตัว การเกิด GAP สองฝั่งของทิศทางราคา เช่นในกรณีที่เกิด Exhausting Gap ในขาขึ้น แล้วไม่มีการปิด GAP แล้วเมื่อเกิดการกลับตัว ในเวลาต่อมาทำให้เกิด Breakaway Gap ในทิศทางขาลงต่อ เพื่อยืนยันขาลง ผลก็คือจะเกิดเกาะของกลุ่มราคา แน่นอนว่าการติดเกาะนี้ ก็คือการติด ดอยนั้นเองครับ
การเกิด GAP ไม่จำเป็นต้องเกิดพร้อมกันทั้ง หมด ส่วนมากที่จะเจอคือ Common GAP และ Break away GAP และการใช้ GAP คู่กับ Chart Pattern ใน TF ระดับนาทีหรือระดับวัน จะมีประโยชน์มากกับนักลงทุน เพื่อใช้วางแนวรับ แนวต้านในการสังเกตการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น
รูปจาก
www.investopedia.com